เฉลยเทคนิค! เปลี่ยนลูกอารมณ์ร้อน เป็นหนูน้อยใจเย็น

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

30 มีนาคม 2564

อ่านแล้วจำนวน

2421

เมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยที่อยากรู้อยากเห็น เริ่มเล่น เริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเอง การดูแลพฤติกรรมของเจ้าวัยซนก็ต้องให้ความสนใจมากขึ้น เพราะเด็กในวัยนี้รู้จักมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งต่างๆ บางครั้งคุณแม่อาจสับสนกับอารมณ์ของลูกที่แปรปรวนเวลามีความสุขก็จะสุขแบบสุดๆ แต่เวลาโกรธก็จะโกรธแบบสุดๆ เช่นกัน 

หากคุณแม่พบว่าลูกของเรามีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ อารมณ์ร้อนแบบนี้ เรามีเทคนิคลดอารมณ์ร้อนให้ลูกใจเย็นขึ้นแบบสันติมาฝากค่ะ

1. ไม่ตามใจทุกครั้งที่ร้องไห้เอาแต่ใจ

การที่ลูกร้องไห้งอแง หรืออารมรณ์ร้อนเอาแต่ใจเวลาอยากได้สิ่งที่ต้องการ แล้วคุณพ่อคุณแม่ตามใจตอบสนองทันที นั้นจะทำให้ลูกเข้าใจว่าเมื่อเขาต้องการเค้าต้องร้องไห้ ต้องงอแงทุกครั้งซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดนะคะ หากไม่รีบแก้ไขสอนและฝึกให้ไม่ตามใจลูกทุกครั้งที่ร้องไห้งอแง ฝึกให้ลูกหัดฟัง หัดพูดหรือเดินไปหยิบเอง ช่วยเหลือตัวเองเมื่อต้องการสิ่งต่างๆ ลูกจะโตขึ้นมาโดยไม่ติดนิสัยเหล่านี้ค่ะ

2. ให้ลูกหัดเรียนรู้การช่วยเหลือตัวเอง

พ่อแม่อาจจะเริ่มฝึกลูกให้เริ่มทำอะไรด้วยตัวเองเบื้องต้น เช่น กินข้าวเองดื่มน้ำจากแก้วเอง หยิบสิ่งของ เก็บของเล่นเอง ใส่เสื้อผ้า ฯลฯ แล้วชื่นชมลูกที่ความพยายามทุกครั้ง ลูกจะรู้จักช่วยเหลือตัวเองมากกว่าการโวยวายให้คนอื่นทำให้ และควรพาลูกไปเล่นกับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน เมื่อลูกไปเจอกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ลูกจะเรียนรู้การแบ่งปัน การใช้ชีวิตกับบุคคลอื่น การได้รับและการให้มากขึ้น การอยู่กับคนอื่นจะเป็นการฝึกให้ลูกควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้นค่ะ

3. ห้ามตอบโต้เมื่อลูกโวยวาย

เวลาที่ลูกร้องไห้เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การเข้าไปอุ้มลูก กอดลูกไว้ โดยไม่ต้องไปดุลูก แค่กอดลูกไว้เฉยๆ แล้วพาลูกออกมาจากสิ่งที่เขาต้องการ เช่น ร้านขนม ร้านของเล่น การที่เราโวยวายตอบโต้กับลูกนั้นถือเป็นการเปิดสงครามเลยก็ว่าได้ ลูกจะยิ่งอารมณ์ร้อนตามเราและเมื่อเป็นบ่อยๆ ลูกก็จะยิ่งเป็นหนักมากขึ้น ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรใจเย็นเข้าสู้ นิ่งและพูดกับลูกดีๆ ถึงลูกจะยังเล็กแต่ลูกก็สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ที่ผู้ใหญ่สื่อสารได้นะคะ ยิ่งวัยนี้เริ่มจดจำต้องระวังให้มากๆ

4. พูดคุยกับลูกในทุกๆ เรื่องบ่อยๆ

การชวนลูกคุยเป็นการฝึกให้ลูกรู้จักแสดงอารมณ์ ความต้องการ และการสื่อสาร ถึงลูกจะยังพูดได้ไม่มากแต่การที่ลูกแสดงท่าทางเพื่อที่จะสื่อสารนั้น เป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยค่ะ พยายามถามลูกบ่อยๆ ว่าชอบอันนี้ไหม ไม่ชอบเพราะอะไร ต้องการอันนี้รึเปล่า ถามความคิดเห็นลูก เปิดโอกาสให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเมื่อลูกรู้สึกต้องการลูกก็จะเริ่มรู้จักการถาม และการแสดงอารมณ์ที่ดี มากกว่าการโวยวายและร้องแบบไม่มีเหตุผลค่ะ

5. เพิ่มสมาธิให้ลูกด้วยสิ่งรอบตัว

หากรู้ว่า ลูกเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบร้องโวยวายเมื่อไม่ได้ดั่งใจ การฝึกสมาธิเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกมีสมาธิได้ตั้งแต่เล็กๆ โดยการทำอะไรเป็นอย่างๆ ทำนานๆ เช่น การวาดรูประบายสี การอ่านหนังสือ การเล่านิทาน การนับหนึ่งถึงสิบ การทำกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นการฝึกให้ลูกมีสมาธิที่ดี รู้จักกล้าแสดงออก และยังได้ฝึกให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีไปด้วย หากลูกไม่ยอมอยู่กับอะไรนานๆ คุณพ่อคุณแม่ก็อย่างบังคับ เพียงแค่ชวนเล่นบ่อยๆ ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมลูกก็จะทำได้เองในที่สุดค่ะ

นอกจากนี้ คุณแม่สามารถนำ "GRIT" เทคนิคเลี้ยงลูกสู่ความสำเร็จมาปรับใช้ได้ค่ะ เช่น 

• ฝึกลูกให้เติบโตแบบมีความพยายาม เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำสิ่งที่รักอย่างตั้งใจ

• ฝึกให้ลูกได้จดจ่อกับสิ่งที่สนใจ ไม่ย่อแท้ มีความอดทน ช่วยให้ลูกใจเย็นมองสิ่งต่างๆ อย่างเข้าใจ มีเหตุและผล

• ฝึกให้ลูกไม่ล้มเลิกความตั้งใจทำเรื่องต่างๆ อย่างง่ายดาย เพื่อลดอาการขี้เบื่อ ขี้หงุดหงิด และใจร้อนให้น้อยลง ปรับวันละนิดวันละหน่อยในที่สุดลูกจะเรียนรู้ซึมซับเติบโตกลายเป็นเด็กใจเย็น พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เองค่ะ 

Tips : ทราบไหมคะว่า นอกจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลทำให้ลูกกลายเป็นเด็กใจร้อนแล้ว การขาดโภชนาการที่ดี รับสารอาหารไม่เพียงพอยังส่งผลต่ออารมณ์ของลูกน้อยได้เช่นกัน อาจทำให้ลูกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ไม่พร้อมเรียนรู้ และเซื่องซึม ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยเลือกให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ หรือเลือกดื่มนมที่ให้คุณค่าสารอาหารจากธรรมชาติอย่างในนมแพะ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีพัฒนาการที่สมวัยค่ะ 

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกจะแสดงอารมณ์ต่างๆ ออกมาเมื่อต้องการนะคะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ต้องนึกไว้เสมอว่า เราต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน ถึงจะสอนลูกให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เมื่อรู้จักระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ตอบโต้อารมณ์ของลูก ค่อยๆ พูดค่อยๆ คุยและอธิบาย ความรักจากคุณพ่อคุณแม่จะช่วยระงับอารมณ์โกรธของลูกได้ดีที่สุดค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง