แม่ตั้งครรภ์ไตรมาสแรก อายุครรภ์ 1-3 เดือน ร่างกายและพัฒนาการลูกในท้องเป็นอย่างไร เช็กได้ตรงนี้

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

30 มีนาคม 2564

อ่านแล้วจำนวน

955

ขณะตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่ายกาย และจิตใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยขณะที่ตั้งครรภ์ 1 – 3 เดือนแรก คุณแม่และลูกในท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ค่ะ

การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่

• หัวใจทำงานหนักขึ้น ตัวอุ่นขึ้น เหงื่อออกง่ายขึ้น เพราะร่างกายมีปริมาณเลือดเพิ่มขึ้นและต้องหายใจเผื่อลูกในท้อง

• เต้านมขยายใหญ่ขึ้น อาจจะรู้สึกคัดตึงเต้าเพราะมีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น

• ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น เพราะมดลูกเริ่มขยายไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ แต่เอวและสะโพกอาจจะยังไม่ผายออกมาก

• อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เช่น หงุดหงิด หรืออยากทานอะไรมากขึ้น รวมถึงมีอาการแพ้ท้อง

การเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์

ช่วง 6 สัปดาห์แรก 

ทารกน้อยจะมีลักษณะคล้ายกุ้ง และขนาดเท่าเม็ดสาคู 

ช่วง 10 สัปดาห์

ลำตัวแขนขาเริ่มยืดยาวขึ้น อวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ กระเพาะอาหาร ตับ ม้าม สำไส้ เริ่มมีการพัฒนาและทำงาน ทารกจะมีขนาดตัวเท่าลูกมะกอกเขียว 

ช่วง 14 สัปดาห์ 

ทารกเริ่มมีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถทราบเพศได้แล้ว ทารกจะมีขนาดพอๆ กับมะนาวเหลือง

1 – 3 เดือนแรก แม่ท้องควรดูแลตัวเองและทารกยังไง 

• ช่วง 3 เดือนแรกควรเพิ่มอาหารโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารก และควรดื่มน้ำให้มากๆ รวมถึงงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

• คุณแม่ยังสามารถทำงานและออกกำลังกายได้ แต่จะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน รวมถึงไม่ทำงานยกของหนัก แต่ถ้าแพทย์ผู้ดูแลครรภ์แนะนำว่าสามารถทำได้ ก็สามารถทำงานหรือออกกำลังกายได้ตามปกติ 

• คุณแม่ควรฝากครรภ์ตั้งแต่วันแรกที่ทราบว่าตั้งครรภ์ รวมถึงควรตรวจสุขภาพและโรคที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์และการเจริญเติบโตของทารก

แม่ตั้งครรภ์ กับสารพันอาการแปลกๆ

มาดูกันดีค่ะว่าอาการแปลกๆ ที่แม่ตั้งครรภ์ต้องเผชิญนั้นมีอะไรบ้าง และจะรับมือได้อย่างไร

เหม็นสามี 

ประสาทสัมผัสของคนท้องจะมีการรับรู้กลิ่นที่ไวขึ้น กลิ่นที่คุ้นเคยก็อาจเหม็นได้ ระหว่างนี้ควรพูดคุยกับสามีว่าอาการนี้เกิดจากฮอร์โมน และจะทุเลาเมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้น

มีน้ำลายมาก 

ช่วงตั้งครรภ์ต่อมน้ำลายจะผลิตน้ำลายมากกว่าปกติ อาจจะรู้สึกว่าน้ำลายขมขึ้นด้วย ลองแก้ด้วยการจิบน้ำเปล่าเย็นจัด ใช้น้ำยาบ้วนปากรสมิ้นต์ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ

อารมณ์แปรปรวน 

เดี๋ยวก็อยากร้องไห้ เดี๋ยวก็โมโหปรี๊ดขึ้นมาเฉยๆ เมื่อรู้สึกตัวว่าเกิดอารมณ์เชิงลบ ลองหายใจเข้าลึกๆ นึกถึงลูกในท้อง นอกจากนี้อาจขอความร่วมมือจากสามีไว้ล่วงหน้า ขอให้เขาพยายามเข้าใจและช่วยเป็นกำลังใจให้คุณผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ในที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

judolbet88 slot gacor judolbet88 slot judolbet88 login