ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงจากเชื้อไวรัส H1N1 ไปจากเดิมมากทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันจึงเกิดการระบาดหรือติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นวงกว้าง โรคนี้มีความรุนแรงต่ำ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายเองได้ค่ะ ในคนไข้ปกติใช้เวลาประมาณ 3-5 วันแต่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นอาจใช้เวลานานกว่านั้น ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องดูแลสุขภาพกันหน่อยนะคะ ใครกันบ้างนะที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนี้บ้างหนอ
• คุณแม่ตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
• เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี
• ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง มะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย และภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
• ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม
• ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
• บุคลากรทางการแพทย์เจ้าหน้าที่ที่ให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดสัตว์ปีก
อาการ
อาการส่วนใหญ่มักจะไม่รุนแรงซึ่งดูจะคล้ายโรคไข้หวัดธรรมดาคือเริ่มต้นมักมีไข้ ไอ น้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ท้ายที่สุดอาการก็จะหายไปเองได้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทำให้เกิดการอักเสบของปอด มีผลทำให้ปอดบวม การหายใจล้มเหลว อาการที่เกิดขึ้นนี้อาจจะรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้โดยมากมักจะเกิดกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดใหญ่ที่กล่าวมานี่แหละคะ
การรักษา
แพทย์และเภสัชกรจะรักษาและจ่ายยาตามอาการ อาจจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส (Tamiflu) เพิ่มโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาเป็นรายๆ ไป การใช้ยาโดยเฉพาะเด็กเล็ก คุณแม่ตั้งครรภ์และผู้สูงอายุนั้นควรใช้ยาอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง เช่น ตัวร้อนมีไข้ ควรได้รับยาลดไข้ อาการไอ ควรใช้ยาที่ไม่กดระบบประสาทส่วนกลาง อาทิ ตัวยาลีโวโดโปรปิซีน เป็นต้น อาการท้องเสียควรเลือกใช้ยาที่ออกฤทธิ์ในการดูดซับ อาทิ ไดออคตะฮีดรอล สเมคไท (Dioctahedral Smectite) ชนิดผง โดยรับประทานห่างจากชนิดอื่นๆประมาณ 1.5-2 ชั่วโมงเป็นต้น ยาไดออคตะฮีดรอล สเมคไท (Dioctahedral Smectite) ชนิดผงนี้สามารถใช้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดรวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ได้เนื่องจากตัวยาออกฤทธิ์เฉพาะในลำไส้และไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
การป้องกัน
เมื่อมีคนในบ้านป่วยหรือสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องรีบพบแพทย์และจำเป็นต้องป้องกันการติดต่อ ดังนี้นะคะ
• ผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่กระจายของละอองฝอย การสัมผัสละอองฝอยจากการไอ จามของผู้ป่วย โดยละอองฝอยที่มีเชื้อเหล่านี้ เมื่อสัมผัสกับทางเดินหายใจหรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เยื่อบุตา จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายและป่วยได้
• เราควรล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการใช้มือ สัมผัสหน้า ตา จมูกโดยไม่จำเป็นเพราะเป็นทางแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้คะ
เมื่อรู้ข้อมูลของโรคแล้วเรื่องหวัดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปแล้วนะคะ