ทำไม? คุณแม่รุ่นใหม่สนใจเลือก “นมแพะ” ให้ลูกน้อย

คุณแม่ยุค 4G ที่ใส่ใจค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตนเอง เพราะรู้ดีว่ายิ่งร่างกายแข็งแรงมากเท่าใด ลูกน้อยก็จะยิ่งมีความสุข และเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่มากเท่านั้น นอกจากนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดแล้ว คุณแม่รุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจและเลือกนมแพะให้ลูกมากขึ้น เพราะนมแพะมีคุณสมบัติที่ดี แตกต่างจากนมอื่นๆ ทั่วไป

3 เหตุผลสำคัญที่แม่ตัดสินใจเลือก “นมแพะ” ให้ลูก

นมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

นมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับนมแม่เรียกว่า อะโพไครน์ (Apocrine) ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูงเรียกว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ (Bioactive Components) ประกอบด้วย นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และ โกรทแฟคเตอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย

โปรตีนนุ่ม CPP ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ให้ลูกเติบโตสมวัย...สบายท้อง

CPP (Casien Phosphopeptides) คือโปรตีนในนมแพะ ที่มีลักษณะนุ่ม ทำให้ย่อยง่าย และยังเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่านั้น นมแพะยังมีเบต้าเคซีนที่ย่อยง่ายในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสัดส่วนเคซีนที่ใกล้เคียงกับนมแม่ ลูกจึงสบายท้อง ห่างไกลจากอาการท้องอืด โดยเฉพาะในขวบปีแรกที่ระบบการย่อย และการดูดซึมสารอาหารของลูกยังพัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญนมแพt กลับมีแอลฟ่า เอสวันเคซีนในปริมาณต่ำ ซึ่งมีผลดีคือทำให้ลูกท้องไม่ผูก เพราะแอลฟ่า เอสวันเคซีน เป็นโปรตีนย่อยยากที่มีมากในนมวัว โดยการวิจัยพบว่านมแพะมีปริมาณ แอลฟ่า เอสวันเคซีนที่ต่ำกว่านมวัวถึง 8 เท่า นมแพะจึงย่อยง่าย ให้ลูกขับถ่ายได้เป็นปกติ นอกจากนี้ นมแพะยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ลูกน้อยจึงเจริญเติบโตได้เต็มที่ และมีพัฒนาการที่ดีสมวัย ในปัจจุบันอัตราการแพ้โปรตีนในนมสูงขึ้น สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากโปรตีนในนมวัว แต่นมแพะมีปริมาณโปรตีนก่อแพ้ หรือเบต้าแลคโตกลอบบูลิน น้อยกว่านมวัวทั่วไปถึง 3 เท่า โอกาสเกิดการแพ้จึงน้อยกว่า เบต้าแลคโตกลอบบูลิน คือ โปรตีนก่อแพ้ที่มีขนาดใหญ่ ร่างกายย่อยยาก จึงเหลือตกค้างอยู่ในลำไส้เล็ก กลายเป็นสารก่อแพ้ที่กระตุ้นให้ร่างกายแสดงอาการออกมาในลักษณะต่างๆ ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย ผื่นคัน น้ำมูกไหล ไอ หอบ เป็นต้น นมแพะจึงเป็นสิ่งที่แม่เลือกเพื่อให้ลูกรักมีพัฒนาการที่ดีอย่างเป็นธรรมชาติ

นมแพะ ช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

นมแพะมีพรีไบโอติก (Prebiotic) ชนิด Oligosaccharide เช่น Inulin และ Oligofructose ซึ่งเป็นใยอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อย และไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร แต่พรีไบโอติกนี้จะถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์สุขภาพอย่างแล็กโทบาซิลลัส และไบฟิโดแบคทีเรีย ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้น จึงช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ ลดการอักเสบบริเวณลำไส้ และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกได้เป็นอย่างดี

นมแพะสำหรับเด็กเป็นอย่างไร? ปัจจุบัน ใช้กันแพร่หลายหรือไม่? และการผลิตได้มาตรฐาน เชื่อถือได้หรือไม่? 

นมแพะ เป็นที่นิยมมานานแล้วในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีนที่ร่างกายสามารถย่อย และดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้เร็วกว่านมวัว เพราะนมแพะมีสัดส่วนของโปรตีนที่เหมาะสม ที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย มีไขมันที่ย่อยง่าย อีกทั้งนมแพะยังมีปริมาณแคลเซียมจากธรรมชาติสูง จึงช่วยเสริมให้กระดูกและฟันแข็งแรง ซึ่งสำคัญมากกับเด็ก คุณสมบัติดังกล่าวนี้ล้วนเป็นที่ยอมรับของแพทย์และนักโภชนาการ

“นมแพะ” แตกต่างจาก “นมวัว” อย่างไร? 

นมแพะกับนมวัวจะแตกต่างกันเพราะว่ามาจากสัตว์คนละประเภท โดยจะแตกต่างกัน ดังนี้

ระบบการให้น้ำนมจะแตกต่างกัน โดยระบบการให้น้ำนมของแพะจะเรียกว่า อะโพไครน์ ซึ่งเป็นระบบการให้น้ำนมแบบเดียวกับของคน โดยจะมีสารอาหารจากธรรมชาติที่หลุดออกมาพร้อมกันกับน้ำนมในปริมาณที่สูง เรียกว่า Bioactive Component

คุณสมบัติของโปรตีนและลักษณะของโปรตีนที่แตกต่างกัน โดยในนมแพะจะมี โปรตีน CPP (Casein Phophopeptides) ซึ่งเป็นโปรตีนนุ่ม ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในนมแพะยังมีสัดส่วนของแอลฟ่า เอสวันเคซีน ซึ่งย่อยยาก ในปริมาณที่ต่ำกว่ำนมวัวถึง 8 เท่า และมีเบต้าเคซีน ในปริมาณสูง ทำให้โปรตีนในนมแพะย่อยง่ายกว่านมวัว นอกจากนี้นมแพะยีงมีปริมาณโปรตีนก่อแพ้ หรือเบต้าแลคโตกลอบบูลิน น้อยกว่านมวัวถึง 3 เท่าโอกาสการเกิดการแพ้จึงน้อยกว่าเด็กที่ได้รับนมวัว

โปรตีนและไขมันของนมแพะเป็นแบบห่วงโซ่ขนาดกลาง (MCT Oil) ที่ร่างกายสามารถย่อยและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว

 แพ้นมวัวสามารถเปลี่ยนมาใช้นมแพะได้หรือไม่?

การแพ้นมวัว เกิดจากการแพ้โปรตีนเบต้าแลคกลอบบูลิน ร่างกายย่อยได้ยาก จึงเหลือตกค้างอยู่ในลำไส้ กลายเป็นสารก่อแพ้ที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ ในนมแพะก็จะมีโปรตีนเบต้าแลคโตกลอบูลิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ก่อให้เกิดการแพ้นี้อยู่ แต่มีปริมาณน้อยกว่านมวัวถึง 3 เท่าโอกาสเกิดการแพ้จึงน้อยกว่า

แพ้นมวัว จะดื่มนมแพะได้ไหมนั้น ขึ้นอยู่กับอาการแพ้ของน้องว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้าแพ้ไม่มาก สามารถปรับมาดื่มนมแพะได้ แต่ต้องค่อย ๆ เริ่มทีละน้อย แต่ถ้าแพ้นมวัวอาการรุนแรง เช่นถ่ายเหลว เลือดปน มีโอกาสที่จะแพ้นมแพะเช่นกัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์

เด็กที่ระบบการย่อยอาหารมีปัญหาเนื่องจากแพ้นมวัว นมแพะช่วยได้อย่างไร

เรื่องระบบการย่อยอาหารจะดีหรือไม่นั้น เราจะพิจารณาดูที่ปริมาณโปรตีนกับไขมันที่มีในนม เพราะโปรตีนกับไขมันถ้ามีมากเกินไปจะทำให้กระเพาะอืด อาหารตกค้างอยู่ในกระเพาะนานและไม่ผ่านลงไปย่อยในลำไส้ ซึ่งโปรตีนแอลฟ่า เอสวันเคซีนเป็นตัวหลักที่ทำให้กระเพาะอืด การที่มีแอลฟ่าเอสวันเคซีนเยอะๆจะทำให้มีอาหารค้างอยู่ในกระเพาะมากขึ้น แต่ในนมแพะนั้นจะมีแอลฟ่าเคซีนที่น้อยกว่าน

ถ้าคุณแม่มีปัญหาน้ำนมไม่มี หรือไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ดังนั้นควรเลี้ยงลูกด้วยนมอะไรดี?

นมแม่ ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และในนมแม่ยังมีความพิเศษในเรื่องของโปรตีนที่ย่อยง่าย จึงทำให้ลูกน้อยท้องไม่ผูก คุณแม่จึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุดเท่าทีจะทำได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องให้นมเสริมกับน้อง ควรเลือกนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีสารอาหารครบถ้วน มีโปรตีนและไขมันที่ย่อยง่าย เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ เด็กจะมีพัฒนาการที่ดีได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการมีร่างกายที่แข็งแรง