6 ข้อ ควรรู้...รับมือ “ไวรัสโรต้า” ที่มากับอากาศเย็นๆ

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

01 เมษายน 2564

อ่านแล้วจำนวน

76

อากาศเย็นทำให้รู้สึกสบายก็จริง แต่อาจจะมีเชื้อโรคแฝงมาแบบไม่คาดคิด ยิ่ง “เชื้อไวรัสโรต้า” เป็นไวรัสที่ชอบอากาศเย็นๆ และอาจทำให้ลูกน้อยติดเชื้อนี้ได้ง่าย หากติดเชื้อนี้แล้วไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องทำความรู้จักเชื้อไวรัสนี้ไว้ก่อน จะได้รับมือได้ทัน 

1. ไวรัสโรต้า ชอบอากาศเย็น

ไวรัสโรต้าพบการระบาดได้ตลอดปี แต่จะพบเยอะในช่วงอากาศเย็นๆ โดยเฉพาะหน้าหนาวพบได้มากที่สุด และลูกน้อยวัยแรก เกิด – 5 ปี ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จึงต้องคอยระวังเชื้อไวรัสที่แฝงมากับอากาศเย็นๆ 

2. ไวรัสโรต้า มักอยู่กับของใช้ของลูก 

เจ้าไวรัสโรต้าเป็นเชื้อที่ติดง่ายมากและสามารถอยู่ได้นานเป็นวันๆ และชอบอยู่ตามของใช้ ของเล่น เมื่อลูกน้อยเอาของเล่นเข้าปากจะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ทันที 

3. ไวรัสโรต้า สาเหตุท้องร่วงรุนแรง 

เมื่อเชื้อไวรัสโรต้าเข้าสู่ร่างกาย จะไปอยู่ที่ลำไส้ ทำให้ผนังลำไส้ดูดซึมน้ำและเกลือแร่ต่างๆ ผิดปกติ และเกิดอาการท้องร่วง มีไข้ อาเจียน ร่างกายสูญเสียน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้

4. ยังไม่มียารักษาเฉพาะ 

ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อไวรัสโรต้ายังไม่มีเฉพาะเจาะตง จึงต้องรักษาตามอาการ เช่น Diosmectite หรือ Dioctahedral Smectite ชนิดผงจะช่วยปกป้องผนังลำไส้ ทำให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ตามปกติ และดูดซับเชื้อไวรัสโรต้านี้ให้ออกไปจากร่างกาย ช่วยลดการสูญเสียน้ำในร่างกายได้ทันที และควรให้ลูกน้อยจิบน้ำเกลือแร่ ORS บ่อยๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ในร่างกาย 

5. ฉีดวัคซีน ช่วยบรรเทาอาการที่ติดเชื้อ 

การฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง หากมีอาการติดเชื้อจริงๆ ช่วยบรรเทาอาการที่อาจจะรุนแรงได้

6. วิธีป้องกันเชื้อไวรัสโรต้า

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ ล้างมือให้ลูกน้อยบ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานข้าว หรือหลังจับสิ่งของต่างๆ รักษาสุขอนามัยของสมาชิกในบ้าน รวมทั้งบริเวณที่ลูกชอบเล่น ควรเป็นพื้นที่สะอาด ไม่อับชื้น มีอากาศถ่ายเทได้ดี และหมั่นล้างของเล่นเสมอ ที่สำคัญควรให้ลูกรับประทานอาหารที่ผ่านความร้อน ปรุงสดใหม่ สุก และสะอาด

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คุณแม่ต้องไม่ลืม คือการให้ลูกได้รับประทานอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี อย่างการดื่ม “นมแพะ” ที่มีโปรตีน CPP โปรตีนนุ่ม ย่อยง่าย ช่วยดูดซึมสารอาหารที่สำคัญเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้ร่างกาย ในนมแพะยังใยอาหารหรือพรีไบโอติก ชนิด Oligosaccharide เช่น Inulin และ Oligofructose โดยจะกระตุ้นการทำงาน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ อย่างเช่น แล็กโทบาซิลลัส (LACTOBACILLUS) และไบฟิโด แบคทีเรีย (BIFIDOBACTERIA) จึงช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติ ที่สำคัญช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันไม้ให้เชื้อโรคต่างๆ มาทำลายสุขภาพของลูกน้อยได้

บทความที่เกี่ยวข้อง