5 โรคติดต่อจากโรงเรียนป้องกันได้ เพื่อลูกแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

01 เมษายน 2564

อ่านแล้วจำนวน

30

เมื่อลูกเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่อย่ามัวแต่ตื่นเต้นที่เห็นลูกไปโรงเรียนวันแรก แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่างเราต้องเตรียมคือ หาข้อมูลให้พร้อมเพื่อรับมือสารพัดโรคติดต่อที่ลูก ๆ อาจจะมีโอกาสเสี่ยงติดมาหลังจากไปโรงเรียน จะมีเทคนิคป้องกัน ดูแลลูก ๆ ให้แข็งแรง สุขภาพดี ไม่ป่วยง่ายเมื่อไปโรงเรียนอย่างไรบ้าง

5 โรคติดต่อสุดฮิตเมื่อลูกไปโรงเรียน มีอะไรบ้าง

1. มือเท้าปาก โรคนี้พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็ก ยิ่งเมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน มีโอกาสเสี่ยงกับโรคมือเท้าปากเพิ่มขึ้น อาการคือมีไข้ เจ็บปาก กินอาหารไม่ได้ มีแผลอักเสบในปาก มีผื่นแดง และกลายเป็นตุ่มขึ้นบริเวณ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า

2. ไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก ในเด็กเล็กมีโอกาสเป็นได้บ่อย เพราะภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงหรือมีมากพอเท่าผู้ใหญ่ ด้วยเชื่อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดมีอยู่หลายชนิด ทำให้มีโอกาสเป็นได้บ่อย หากร่างกายหรือภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง

3. ตาแดง เป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตาบริเวณตาบนและล่างรวมเยื่อบุตาบริเวณตาขาว เป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง สามารถติดต่อโดยตรงจากมือสัมผัสขี้ตา น้ำตาของผู้ป่วย แล้วมาสัมผัสตาตัวเอง สามารถติดต่อได้ง่าย และระบาดได้ โดยเฉพาะในเด็กที่เริ่มเข้าโรงเรียน

4. อุจจาระร่วง หรืออาการท้องเสียรุนแรง คือ ถ่ายอุจจาระเหลวตั้งแต่ 3-4 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายมีมูกปนเลือด ถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก อาจมีอาการอาเจียนหรือเป็นไข้ด้วย ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากเชื้ออหิวาตกโรค เชื้อบิด อีโคไล หรือ เชื้อปรสิตในลำไส้ เช่น ไจอาเดีย หรือจากเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโรต้า

5. อีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยในเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อได้ง่ายผ่านการหายใจ หรือการสัมผัส อีสุกอีใสมักจะระบาดในช่วงปลายฤดูหนาว ถึงต้นฤดูร้อน อาการจะมีผื่นขึ้นพร้อมไข้ จากผื่นแดงกลายเป็นตุ่มน้ำใส และจะค่อย ๆ แห้งหายไปเอง 

เทคนิคป้องกัน 5 โรคติดต่อจากโรงเรียนเพื่อลูกแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย

•ให้ลูกดื่มนมแม่ตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก 

• ทำความสะอาดของใช้ ของเล่น เฟอร์นิเจอร์หรือสถานที่ต่างๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ

• ไม่พาลูกออกไปที่คนเยอะๆ หรือในที่ชุมชนในช่วงที่มีการระบาดของโรค เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า สระว่ายน้ำ

• สอนให้ลูก ๆ ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร 

• ใช้ช้อนกลางตักอาหาร และแยกของใช้ของคนป่วยเพื่อป้องกันการติดต่อ ติดเชื้อ 

• ให้ลูกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สด สะอาด

• เลือกอาหารที่มีประโยชน์ และเลือกนมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกดื่มตั้งแต่ขวบปีแรก ควรเลือกนมแพะ เพราะนมแพะมีไบโอแอคทีฟ คอมโพแนนท์ (Bioactive Components) ซึ่งเป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ประกอบด้วยสารอาหารมีถึง 4 ชนิด ได้แก่ นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และโกรทแฟคเตอร์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกและยังช่วยดูแลให้ร่างกายและสมองมีพัฒนาการดี เรียนรู้สมวัย ที่สำคัญนมแพะ มีโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ยิ่งกว่านั้นในนมแพะยังมี CPP หรือ Casein Phosphopeptides ที่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ลูกน้อยเจริญเติบโตเต็มที่ มีร่างกายที่แข็งแรง

• เลือกนมแพะช่วยดูแลระบบขับถ่าย เพราะนมแพะมีพรีไบโอติก ชนิด Oligosaccharide เช่น Inulin และ Oligofructose ซึ่งพรีไบโอติกเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ พรีไบโอติกจะกระตุ้นการทำงาน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ใหญ่ ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพเพิ่มจำนวนขึ้น จึงช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ ลดการอักเสบบริเวณลำไส้ และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกได้เป็นอย่างดี ลูกรักจึงแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย