ลูกน้อยวัยขวบปีแรก มีพัฒนาการที่ที่รวดเร็ว วัยนี้จึงเป็นวัยที่พ่อแม่ต้องส่งเสริมเพื่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ต้องดูแลใกล้ชิด เพื่อจะได้เห็นพัฒนาการของเขา และส่งเสริมอย่างถูกทาง ลูกจะได้มีความพร้อมเรียนรู้โลกกว้างอย่างเต็มที่ เรามาดูกันว่าเราจะกระตุ้นและส่งเสริม


พัฒนาการแต่ละวัยได้อย่างไร

อายุ 2 เดือน = ชันคอได้แล้ว
กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของลูกกำลังพัฒนาไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพัฒนาการที่เห็นได้อย่างชัดเจนในวัย 2 เดือนก็คือ การชันคอ ส่งเสริมพัฒนาการลูกด้วยหมั่นจับลูกนอนคว่ำ ลูกจะชันคอขึ้นมาได้เองเมื่อลูกสามารถชันคอได้แล้ว การอุ้มลูกพาดบ่า ลูกจะหันมองไปมาได้รอบทิศทาง ตามสิ่งที่เขาอยากจะมอง
 

อายุ 4 เดือน =คว่ำได้แล้ว
การพลิกหงายพลิกคว่ำเป็นอีกพัฒนาการที่มีความสำคัญต่อเด็กๆ และยังช่วยให้เด็กๆ พ้นจากการเสี่ยงตายเฉียบพลัน (SID) เนื่องจากเด็กในวัยนี้แข็งแรงพอที่จะพลิกคว่ำพลิกหงายเอง ช่วยตัวเองได้เวลาที่หายใจไม่ออกตอนนอน ส่งเสริมพัฒนาการลูกด้วยจับลูกนอนคว่ำ แล้วให้ลูกพลิกกลับมานอนหงาย หรือคุณแม่สามารถให้มือเล็กๆ ของลูกจับนิ้วคุณแม่ แล้วลูกจะดึงตัวเองขึ้นมาในท่านั่งได้ด้วย
 

อายุ 6 เดือน = นั่งได้แล้ว
เป็นพัฒนาการต่อเนื่องมาจากเดือนที่ 4 ลูกจะเริ่มนั่งได้เอง ไม่หน้าทิ่ม ไม่หงายหลัง ซึ่งเด็กในวัยนี้กล้ามเนื้อบริเวณหลังจะเริ่มแข็งแรงมากขึ้น จนทำให้ลูกนั่งได้แล้ว ส่งเสริมพัฒนาการลูกด้วย ให้ลูกนั่ง แล้วหาของเล่นยื่นส่งไปมาให้กัน ช่วยลูกฝึกการทรงตัว นั่งได้ดีขึ้น
 

อายุ 7 เดือน = คืบคลานได้แล้ว
เมื่อลูกในวัยนี้เริ่มคืบได้คลานได้แล้ว การสำรวจบ้านก็เริ่มขึ้น ส่งเสริมพัฒนาการ
ลูกด้วยจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ลูกได้เรียนรู้ นำของต้องห้ามต่างๆ ที่อันตรายต่อลูกที่แตกได้ บาดได้ ออกไปให้ไกล แล้วปล่อยให้ลูกเรียนรู้ไปกับสิ่งต่างๆ ในบ้าน อีกวิธีที่ช่วยพัฒนาการของลูกคือ เรื่องของความแตกต่าง เช่น ผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน สีที่แตกต่างกัน เสียงที่แตกต่างกัน ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยเสริมพัฒนาการให้ลูกได้เช่นกัน
 

อายุ 9 เดือน = ตั้งไข่และเดินได้แล้ว
การเดินมันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ ในวัยตั้งไข่นี้ ลูกจะมีการทำงานประสานระหว่างตาและมือ ขาและแขนได้ดีมากขึ้น ลูกต้องการที่จะเกาะยืนและเกาะเดินไปยังจุดต่างๆ แม้จะยังไม่คล่อง แม้จะล้มบ่อย แต่มันคือการเรียนรู้ และพัฒนาการของลูกทั้งสิ้น ส่งเสริมพัฒนาการลูกด้วย ให้ลูกเดินจากคุณแม่มาหาคุณพ่อ และจากคุณพ่อมาหาคุณแม่ หรือเดินมาหยิบตุ๊กตาตัวโปรดที่ตักคุณแม่ ก็ช่วยให้ลูกสนุกและมีพัฒนาการที่ดีไปด้วย
 

อายุ 1 ขวบ = พ่อจ๋าแม่จ๋า
พัฒนาการที่น่าปลื้มใจที่สุดของคนเป็นพ่อเป็นแม่คงหนีไม่พ้นการเรียกพ่อแม่ของลูก แม้จะเป็นเพียงแค่ มามา หรือ ปาปา เท่านั้น แต่ก็ทำให้รู้ว่าลูกรู้จักคุณพ่อคุณแม่ สื่อสารได้ และเป็นพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ ที่น่าจดจำมากๆ ส่งเสริมพัฒนาการลูกด้วย พูดคำศัพท์พยางค์เดียวให้ลูกพูดตาม หรือพูดกับลูกบ่อยๆ ให้ลูกสื่อสารกลับมา ช่วยฝึกพัฒนาการด้านภาษาได้ดีทีเดียว
 

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยแล้วละก็ ควรดูแลเรื่องโภชนาการของลูก โดยให้ลูกได้รับสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นการทำงานของสมอง อย่างนมแพะ เนื่องจากนมแพะมีระบบการให้น้ำนมแบบ อะโพไครน์* ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง เช่น นิวคลีโอไทด์ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแข็งแรง ทอรีน ช่วยให้การทำงานของจอประสาทตาดีขึ้น โพลีเอมีนส์ ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโกรทแฟคเตอร์ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และมีโปรตีน CPP* ที่ย่อย และดูดซึมได้ง่าย ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้เต็มที่ มีพรีไบโอติก*ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี อารมณ์ดี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการต่างๆ ของลูก และยังมีโอเมก้า 3 6 9 DHA ARA ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นที่ช่วยพัฒนาสมองและเครือข่ายใยสมอง ทำให้ลูกน้อยมีความพร้อมที่จะเรียนรู้และต่อยอดไปสู่พัฒนาการที่ดีเยี่ยมสมวัยอย่างเป็นธรรมชาติ

Ref:Park et al. Small Ruminant Research 2007; 68: 88-113, Tsuchita et al. British Journal of Nutrition 2001; 85, 5-10, Neveu et al. Reprod Nutr Dev. 2002; 42:163-172,