ใครบอกว่าลูกหรือเด็กๆ ยังไม่รู้หรอกว่าความสุขเป็นยังไง เราขอยืนยันค่ะว่าลูกเล็กของเรารู้แล้วนะว่าความสุขคือความรู้สึกแบบไหน แต่การจะสอนและทำให้ลูกมีความสุขในสังคมปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เราจึงมี 6 วิธีทำให้ลูกรู้จัก “ความสุข” แบบ Advance ท่ามกลางสังคมดราม่ามาแนะนำ ถ้าคุณแม่ทำได้สัก 3 ข้อ เชื่อเถอะว่าลูกจะมีความสุข มองโลกในแง่ดี และรู้จักเอาตัวรอดได้ดีกว่าใครแน่นอน
1. อย่าพยายามทำให้ลูกมีความสุข
ฟังดูอาจจะ เอ๊ะ!! แปลกๆ ก็อยากเลี้ยงลูกให้มีความสุข ทำไมถึงอย่าพยายามทำให้ลูกมีความสุข ในที่นี่คือ ถ้าอยากให้ลูกมีความสุขระยะยาว ก็อย่าหยิบยื่นความสุขแบบฉาบฉวยให้ลูก คือ อย่าตามใจลูกมากเกินไป ลูกอยากได้อะไร ลูกจะเอาอะไรก็ทำให้ หามาให้หมด หรือประคบประหงมลูกมากเกินไป เพราะกลัวลูกจะไม่มีความสุข ในโลกของความจริงที่ลูกต้องเผชิญ เขาไม่มีทางได้สิ่งที่สมหวังไปหมดทุกอย่าง ถ้าวันที่เขาเติบโตขึ้นแล้วต้องเจอกับความผิดหวัง ถ้าเขาไม่ได้รู้จักเตรียมพร้อมไว้ อาจทำให้ลูกเสียหลักได้ง่าย หรือรู้สึกว่าโลกพังทลายลง
ดังนั้นพ่อแม่ต้องต้องให้ลูกได้เรียนรู้ เผชิญกับอารมณ์ต่าง ๆ และรับมืออย่างเหมาะสมตั้งแต่เล็กๆ เช่น ควรให้ลูกโกรธ ผิดหวัง เสียใจบ้าง ถ้าลูกผิดหวังจะร้องไห้ ก็ปล่อยให้ร้อง อย่าบังคับว่าเงียบได้แล้ว หยุดร้อง ให้เขาได้ระบายความเครียดออกมา แล้วคอยแนะนำเมื่อเขาสงบลงเพื่อให้ลูกเป็นเด็กที่ยืดหยุ่น ปรับตัวกับสังคมได้อย่างมีความสุข แล้วจะทึ่งว่าตัวแค่นี้ก็รู้จักรับมือกับอารมณ์ต่าง ๆ ได้ เพียงแต่ควรฝึกเขาตั้งแต่เล็ก ๆ
2. อวยลูกบ้าง ชื่นชมลูกหน่อย
อย่าคิดว่าชมลูกแล้วลูกจะเหลิง ขนาดผู้ใหญ่ยังชอบให้คนชื่นชมเลย เด็กก็เช่นกันค่ะ ถ้าเขาทำเรื่องที่น่าชื่นชม หรือใช้ความพยายามควรรีบชื่นชมแม้เพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ คำชมจะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง รู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเอง จะทำอะไรก็มีความมั่นใจขึ้น การชมลูกควรชมในความพยายามของลูกมากกว่าผลของความสำเร็จ เช่น ชมที่ลูกขยัน ตั้งใจ ทำข้อสอบ ไม่ใช่ชมเพราะลูกสอบได้ที่ 1 สอบได้เกรดดี ถึงชื่นชม เวลาชม ควรใช้ภาษากายร่วมด้วย เช่น สบตา สวมกอด ให้ลูกสัมผัสถึงความจริงใจและความชื่นชมจากพ่อแม่
3. ร้องเพลง หาเกมมาเล่นกับลูกทุกวัน
อยากให้ลูกเป็นเด็กที่เติบโตฉลาด มีความสุข พ่อแม่คือกุญแจสำคัญค่ะ แทนที่จะปล่อยให้ลูกอยู่กับจอทีวี ดู YouTube เวลาว่าง พ่อแม่ต้องให้เวลาเล่นกับลูกให้มากที่สุด การเล่นกับลูกเป็นการกระตุ้นพัฒนาการได้ดีที่สุด อย่าอายที่จะเต้น ร้องรำทำเพลง สนุกสนานไปกับลูก หรือหาเกมส์มาเล่นกับลูกทุก ๆ วัน เช่น เล่นขายของ เล่นซ่อนแอบ เล่นบอร์ดเกม เคล็ดลับง่าย ๆ คือทำตัวเป็นเด็กไปกับลูก ต้องกล้าปลดล็อกตัวเอง พ่อแม่บางคนไม่กล้าเล่นกับลูกเพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ไม่กล้าทำท่าทางแปลก ๆ อยู่ในบ้านไม่ต้องอายใครเลยค่ะ ตะโกน ร้องเพลงกับลูกให้ เพราะการเล่นของลูกจะเป็นพื้นฐานของการพัฒนา ความฉลาดทางปัญญา อารมณ์ และสังคมไปพร้อมๆ กันค่ะ
4. อย่าเปรียบเทียบลูก
พ่อแม่ก็ไม่ชอบให้ใครมาเปรียบเทียบตัวเราเอง หรือเปรียบเทียบวิธีเลี้ยงลูก เด็ก ๆ ก็เช่นกัน ลูกไม่ชอบให้พ่อแม่เปรียบเทียบกับคนอื่น การเปรียบเทียบไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากสร้างรอยโหว่ในจิตใจเด็ก ๆ ทำให้เด็กขาดความมั่นใจ กดดัน หรือมีปมด้อยได้ บางครั้งพ่อแม่อาจจะเผลอเปรียบเทียบไปโดยไม่รู้ตัว หรือหลงลืมไป ต้องระวังให้ดีค่ะ ถ้าหยุดเปรียบเทียบลูกได้ และหันมาชื่นชมลูกในแบบตัวเขาเอง จะทำให้เขาเป็นเด็กที่มั่นใจ และมีความสุขขึ้นได้มากเลยค่ะ
5. หยุดพูดว่า อย่า อย่า อย่า!
อย่าทำโน่น อย่าทำนี่! คำพูดสุดฮิตที่แม่ชอบใช้กับลูก เวลาลูกขยับจะทำอะไร แต่การห้ามลูกทำโน่นนี่ ถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่เป็นอันตราย คอขาดบาดตาย หรือรบกวนคนอื่น คุณแม่ควรเพลา ๆ ลงบ้าง เพราะการห้ามลูกมากเกินไปด้วยคำพูดเหล่านี้จะทำให้ลูกไม่กล้าทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ขาดความคิดสร้างสรรค์ เป็นเด็กขาดความมั่นใจ แม่ควรปล่อยให้ลูกได้คิดตัดสินใจ หรือได้วิ่งเล่น ทำอะไรได้อย่างอิสระบ้าง เพื่อให้ลูก ๆ ได้มีความสุขในแบบของเขา
6. ดูแลลูกให้แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยบ่อย
นอกจากดูแลลูกให้มีความสุขในทุก ๆ วันแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายลูกให้แข็งแรงก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าลูกมีความสุข แต่ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยบ่อย ก็ทำให้ความสุขลดลงได้ ดังนั้นการเลือกนมที่ช่วยดูแลภูมิคุ้มกันลูกให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การเลี้ยงดู อยากให้ลูกมีความสุขแบบ Advance ต้องรู้จักเคล็ดลับเลือกนมแพะแบบ Advance เช่นกัน
“นมแพะ” มีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับนมแม่ คือ อะโพไคน์ ทำให้ได้สารอาหารธรรมชาติ ที่เรียกว่า Bioactive Components นมแพะมีโปรตีน ที่ย่อยและดูดซึมง่าย ที่สำคัญยังมี CPP หรือ Casein Phosphopeptides ที่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ลูกน้อยเจริญเติบโตแข็งแรงเต็มที่ ที่สำคัญคือมีพรีไบโอติกส์ เช่น Inulin & Oligofructose ที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายของลูกน้อย และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จึงทำให้คุณแม่สบายใจมากขึ้น เมื่อเพิ่อลูกรักเติบโตแข็งแรง ภุมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยบ่อย