คุณแม่หลายคนคงกำลังมองหานมเสริมที่มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของลูก แต่คุณแม่เคยสงสัยไหมคะ ว่านมแพะและนมวัว ที่คุณแม่สนใจเลือกให้ลูกดื่มนั้น มีระบบการสร้างน้ำนมแบบไหน มีสารอาหารธรรมชาติอะไรบ้าง เพื่อให้คุณแม่ได้ทราบข้อมูล เราจะพามาไขข้อสงสัยกันค่ะ
ระบบการสร้างนมแพะ
นมแพะ มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” (Apocrine Secretion) แบบเดียวกับคน จึงทำให้นมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติที่มีประโยชน์สูง เรียกกันว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ (Bioactive Components)
ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ (Bioactive Components) คือ สารอาหารจากธรรมชาติที่หลุดออกมาพร้อมกับน้ำนม ประกอบด้วย
• นิวคลีโอไทด์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
• ทอรีน ช่วยให้การทำงานของจอประสาทตาดีขึ้น
• โพลีเอมีนส์ ส่งเสริมระบบทางเดินอาหารให้สมบูรณ์
• โกรทแฟคเตอร์ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต
ในนมแพะมีสัดส่วนของโปรตีนย่อยง่ายอย่างเบต้าเคซีนในปริมาณสูงกว่านมวัว 2 เท่า ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในนมแพะยังมีสัดส่วนของแอลฟ่า เอสวันเคซีน ซึ่งย่อยยาก ในปริมาณที่ต่ำกว่ำนมวัวถึง 8 เท่า ทำให้โปรตีนในนมแพะย่อยง่ายกว่านมวัว
นอกจากนี้นมแพะมีปริมาณโปรตีนก่อแพ้ หรือเบต้าแลคโตกลอบบูลิน น้อยกว่านมวัวถึง 3 เท่า โอกาสการเกิดการแพ้จึงน้อยกว่าเด็กที่ได้รับนมวัว
นมแพะจะมีสารอาหารจากธรรมชาติคงอยู่มากกว่านมวัว เพราะมีขั้นตอนการผลิตที่น้อยกว่า มีสารเติมแต่งน้อยกว่า กระบวนการดัดแปลงน้อยกว่า มีการให้ความร้อนน้อยครั้งกว่านมวัว
DG Smart Tips : วิธีชงนมแพะให้ลูกน้อยดื่ม
1. รินน้ำต้มสุกอุ่นตามจำนวนออนซ์ที่ต้องการผสมลงในขวด
2. ตักนมใส่ขวดโดยใช้ช้อนตวงนม ปาดนมให้เรียบ แล้วใส่ตามปริมาณที่ต้องการ (อัตราส่วน นมแพะดีจี 1 ช้อน ต่อ น้ำ 1 ออนซ์) ผสมให้เข้ากันจนผงนมละลายดี
3. ทดสอบความร้อนของนม โดยการหยดนมลงบนหลังมือหรือท้องแขนด้านในก่อนให้ลูกดื่ม
ดื่มนมแพะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย ในเด็กแรกเกิดที่คุณแม่อาจจะมีปัญหาให้นมลูกไม่ได้ ให้ลูกดื่มนมแพะวันละ 8-10 ครั้ง ทุก 1-2 ชั่วโมง และเด็ก 6 เดือน ถึง 1 ปี ที่หย่านมแม่แล้ว ดื่มนมแพะได้วันละ 5-6 ครั้ง ทุก 2 ชั่วโมง หรือดื่มได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ