ลูกอมข้าว ปัญหาที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องที่สร้างความเครียดให้กับแม่ๆ ได้เพราะกลัวลูกจะไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ กลัวลูกจะไม่เติบโต พัฒนาการไม่ดี น้ำหนักน้อย จริงๆแล้วการกินอาหารยากหรืออมข้าว ไม่ยอมกินของลูกนั้น ต้องเริ่มฝึกฝนจากการสร้างวินัยที่ดีให้กับลูกจากพ่อแม่นั่นเองค่ะ เรามีคำแนะนำมาฝากสำหรับครอบครัวที่มีปัญหาการกิน การอมข้าวของลูก ดังนี้

งดมื้อนม หรืออาหารว่างก่อนมื้ออาหารหลัก 

การที่ลูกอมข้าวไว้ในปากส่วนใหญ่เป็นเพราะลูกอิ่ม หรือไม่อยากกินข้าวแล้ว แต่โดนบังคับให้กินจึงต้องอมข้าวไว้ ไม่ยอมเคี้ยวกลืนลงท้องไปอย่างง่ายๆ ดังนั้นก่อนมื้ออาหารหลักประมาณ 2-3 ชั่วโมงไม่ควรให้ลูกกินอาหารอย่างอื่นจนอิ่มมากเกินไป

กินอาหารพร้อมหน้าครอบรัว

สร้างบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร เมื่อถึงเวลากินอาหารควรให้ลูกได้กินพร้อมหน้าครอบครัว พ่อแม่จะเป็นต้นแบบที่ดีในการฝึกนิสัยการกินให้ลูก งดมือถือ แท็บเล็ต ของเล่นหรือโทรทัศน์ขณะกินอาหาร เพราะบางทีการที่ลูกเล่นเกมไป ดูทีวีไประหว่างการกินทำให้ลูกไม่มีสมาธิกับการกิน ควรให้เป็นช่วงเวลาของการกินอย่างแท้จริง และควรปล่อยให้ลูกได้กินด้วยตัวเอง โดยพ่อแม่พยายามช่วยเหลือให้น้อยที่สุด และไม่ควรบังคับ หรือรบเร้าถ้าลูกไม่อยากกิน

ให้ปริมาณอย่างเหมาะสม 

พ่อแม่หลายคนเห็นลูกตัวเล็กก็พยายามบำรุง หรือให้ลูกกินปริมาณเยอะ ซึ่งบางครั้งเยอะเกินความต้องการ ทำให้อิ่มแล้วก็ยังต้องโดนบังคับเคี่ยวเข็ญให้กินให้หมด ซึ่งถ้ากะปริมาณที่พอดีกับลูกก็จะทำให้ลูกกินหมดได้ง่าย และถ้าลูกกินหมดควรให้คำชมกับลูกทุกครั้ง

ฝึกหัดให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเอง

ถ้าเริ่มหัดให้ลูกเริ่มตักข้าวกินด้วยตัวเองแล้ว มื้อต่อๆ ไปต้องให้ลูกกินเองอย่างเป็นกิจวัตร ไม่ใช่ว่าบางวันให้ลูกกิน บางวันก็เข้าไปป้อน การฝึกให้ลูกกินต้องให้นั่งกินบนโต๊ะ ไม่ใช่วิ่งเล่นไป กินไป การจะฝึกวินัยให้ลูก ผู้ใหญ่ต้องมีวินัยเสียก่อน

ใจแข็งเข้าไว้ 

อาจเป็นวิธีที่พ่อแม่มักจะไม่ค่อยอยากใช้ นั่นคือการใจแข็งกับลูก ถ้าลูกอมข้าว ไม่ยอมกินข้าวหรือกินช้ามาก ก็ให้ลูกหยุดกิน แล้วรอจนกว่ามื้อต่อไป แล้วจึงให้ลูกกิน โดยไม่ให้นม ขนมจุกจิกกินแทนข้าว

คุณแม่อาจจะหาเมนูที่ลูกชอบมากระตุ้นให้ลูกอยากกิน หรือตกแต่งอาหาร ภาชนะ จาน ชาม ช้อน ให้น่ารัก น่ากิน สนุกกับการกินในแต่ละมื้อ