10 เคล็ดลับสร้างลูกอารมณ์ดี

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

30 มีนาคม 2564

อ่านแล้วจำนวน

181

ถ้าร่างกายพร้อมแข็งแรง อารมณ์ดี ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับพ่อแม่หน้าที่สำคัญคือการดูแลให้ลูกร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีจิตใจเบิกบาน อารมณ์ดี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการพัฒนาการทุกๆ ด้านของลูก


เคยได้ยินกันไหมคะว่า ถ้าร่างกายพร้อมแข็งแรง อารมณ์ดี ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับพ่อแม่หน้าที่สำคัญคือการดูแลให้ลูกร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีจิตใจเบิกบาน อารมณ์ดี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการพัฒนาการทุกๆ ด้านของลูก แต่เคล็ดลับง่ายๆ ที่พ่อแม่อาจจะหลงลืม มองข้ามไปเพื่อสร้างลูกน้อยให้เป็นเด็กอารมณ์ดีมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

10 เคล็ดลับสร้างลูกอารมณ์ดี

1. พ่อแม่ต้นแบบให้ลูกรักอารมณ์ดี สำนวนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นยังเชื่อได้ค่ะ ถ้าพ่อแม่เป็นอย่างไรก็มีแนวโน้มว่าลูกๆ จะเป็นเช่นนั้นด้วย ดังนั้นถ้าอยากให้ลูกอารมณ์ดีคนเลี้ยงต้องไม่เครียด ไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิด เกรี้ยวกราดอย่างไม่มีเหตุผลค่ะ

2. ดูแลโภชนาการเพื่อลูกรักอารมณ์ดี หลายครั้งที่ลูกร้องไห้โยเย เพราะหงุดหงิดจากอาการไม่สบายตัว เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ดังนั้นต้องหาสาเหตุให้เจอค่ะ เช่น ถ้าลูกทารกหลังจากให้ลูกกินนมควรจับลูกให้เรอ แต่สำหรับเด็กวัย 1-2 ขวบ ที่อาจจะไม่ได้กินนมแม่แล้ว คุณแม่ควรเลือกนมที่มีโปรตีนขนาดเล็กคล้ายกับในน้ำนมแม่ เพราะนมจะย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืด หรือท้องเสียได้ง่ายๆ ขับถ่ายได้ดี เมื่อลูกรักสบายตัว ก็ทำให้ลูกอารมณ์ดีได้ไม่ยากค่ะ

3. อยากอารมณ์ดี มาเล่นกันเถอะ ลูกวัยนี้หัวเราะได้ไม่ยาก แค่คุณแม่เล่นกับลูกง่ายๆ อย่างเช่น เล่นจ๊ะเอ๋กับลูก แค่นี้ลูกก็หัวเราะร่วนทั้งวันแล้วค่ะ หรือลองสอนให้ลูกยิ้มหวาน ทำตาหยี ฯลฯ เพื่อปูพื้นฐานให้ลูกแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสมค่ะ

4. นวดสัมผัสอบอุ่นจากแม่ช่วยลูกอารมณ์ดี สัมผัสจากแม่มีผลกับสมองและจิตใจ รวมทั้งร่างกายของลูกมากค่ะ ลองใช้การนวดตัวเบาๆ ไปบนตัวลูกพร้อมเบบี้ออยล์ นอกจากจะเป็นการเพิ่มการไหลเวียนให้ลูกแล้ว ยังกระตุ้นให้ลูกรักอารมณ์ดีด้วยสัมผัสรักจากแม่ด้วยค่ะ

5. พาออกเที่ยวโลกกว้างช่วยลูกอารมณ์ดี การพาลูกออกไปเล่นข้างนอกบ้าง จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้ ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆ ทำให้อารมณ์แจ่มใส่ขึ้นได้ เคยสังเกตไหมคะ เด็กบางคนร้องโยเยอยู่ แค่พ่อแม่อุ้มออกไปเดินชมนกชมไม้ก็หยุดร้องได้แล้ว

6. นอนเต็มอิ่ม ลูกรักอารมณ์ดี เวลาลูกนอนไม่เต็มอิ่มจะมีอาการหงุดหงิดได้ง่าย ดังนั้นคุณแม่ควรเอาลูกเข้านอนไม่ดึกเกินไปและสร้างให้เป็นกิจวัตรในเวลาเดิมเพื่อให้ลูกคุ้นเคย และปล่อยให้ลูกนอนหลับอย่างเต็มอิ่มเมื่อลูกหลับสนิทดีจะส่งผลกับอารมณ์ของลูกค่ะ 

7. อยากให้ลูกอารมณ์ดี อย่าปล่อยให้ลูกหิว อาการหงุดหงิดงอแงของลูกมีอยู่ไม่กี่เรื่อง "ความหิว" เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขางอแง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาอาหารของลูกไม่ควรปล่อยให้ลูกหิว ถ้าจำเป็นอยู่ข้างนอก อาจจะหาของว่างที่มีประโยชน์ติดไว้ หรือให้เป็นนมกับลูกก่อน เพราะการปล่อยให้ลูกหิวบ่อยๆ จะทำให้เป็นเด็กงอแง หงุดหงิดเจ้าอารมณ์ได้ค่ะ 

8. งดของหวาน ช่วยลูกอารมณ์ดี เพราะจะทำให้เด็กติดรสหวานได้ การให้เด็กกินขนมหวานมากไปนอกจากจะส่งผลกับสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่ออารมณ์ด้วย เพราะการมีน้ำตาลในเลือดมากเกินไป สมองจะสั่งการให้หลั่งอินซูลินออกมาเพื่อปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้ลดลง จะทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก และขับอินซูลินออกมามากเกินไป เมื่อมีอินซูลินในสมองมาก อาจทำให้เครียด หงุดหงิดง่ายขึ้นค่ะ 

9. ดนตรีกล่อมลูกอารมณ์ดี เสียงเพลงช่วยขับกล่อมและทำให้ลูกอารมณ์ดีค่ะ เลือกเพลงบรรเลง หรือลองดูว่าลูกชอบเพลงประเภทไหน หรือคุณแม่จะชวนลูกร้องเพลงไปพร้อมๆ กันก็ได้เช่นกันค่ะ นอกจากจะช่วยให้ลูกร่าเริงแล้วยังฝึกทักษะการฟังให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ 

10. อย่าแหย่ยั่วให้ลูกโมโห อันนี้อาจจะเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดจากพ่อแม่ แต่ผู้ใหญ่รอบๆ ตัวเด็กหลายๆ คนบางทีชอบแหย่ หรือแกล้งเด็กเล่นให้เด็กหงุดหงิด ร้องไห้ เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่สำหรับเด็กที่ยังไม่เข้าใจวิธีการเล่นแบบนี้ อาจส่งผลเสียกับความมั่นคงทางอารมณ์ จิตใจได้ จนอาจจะกลายเป็นเด็กขี้หงุดหงิดได้ ดังนั้นอยากให้ลูกเป็นเด็กแจ่มใส อารมณ์ดี อย่าแกล้งกันด้วยวิธีแบบนี้เลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง