อาหารเป็นพิษ เรื่องใกล้ตัวเด็กที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

01 เมษายน 2564

อ่านแล้วจำนวน

2972

อาหารเป็นพิษเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ ฟังดูอาจเป็นเรื่องปกติ แต่ความแตกต่างของอาการก็คือ เมื่อเด็กเป็นแล้วความรุนแรงมักจะมากกว่าที่ผู้ใหญ่เป็น เนื่องจากเด็กๆ อาจทนภาวะขาดน้ำได้ไม่มากเท่า ดังนั้นเมื่อลูกเกิดอาการอาหารเป็นพิษ คุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกแบบ Advance ต้องรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้ค่ะ 

สาเหตุและอาการ อาหารเป็นพิษ

อาหารเป็นพิษ คือ อาการป่วยที่เกิดจากการทานอาหารที่มีสารพิษหรือเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนเข้าไป เช่น พิษของเชื้อ Staphylococcus aureus, E.coli, Clostridium botulism, Bacillus cereus เมื่อเด็กๆ ทานอาหารที่มีพิษของเชื้อเหล่านี้เข้าไปแล้ว จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว

ส่วนอาการที่เกิดขึ้นจะเกิดเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษของแบคทีเรียที่ร่างกายได้รับ เด็กบางคนอาจเกิดเร็วใน 1-2 ชั่วโมง แต่เมื่อร่างกายขับพิษออกมาเป็นการถ่ายหรืออาเจียนหลังจากนั้นก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่บางคนก็อาจมีอาการ 1-2 วันได้เช่นกัน 

อาหารเป็นพิษส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากกรรมวิธีการปรุงอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ อาหารไม่สด หรือเก็บไว้นานจนเกิดแบคทีเรียเมื่อเด็กๆ ทานเข้าไปจึงทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้นั่นเอง

การดูแลลูกเมื่ออาหารเป็นพิษ 

ควรให้ลูกกินยาแก้อาเจียนและดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่เสียไป ไม่จำเป็นต้องกินยาฆ่าเชื้อ และไม่ควรให้ลูกกินยาระงับการขับถ่ายหรือยาแก้ท้องเสีย เพราะจะยิ่งทำให้สารพิษอยู่ในร่างกายนานขึ้น หากลูกอายุต่ำกว่า 3 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้น้ำเกลือแร่กับลูกเร็วขึ้น เพราะเด็กเล็กไม่อาจทนภาวะขาดน้ำได้ดีเท่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่อย่างเราๆ นอกจากนี้อาการอาหารเป็นพิษจะรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป ถ้าทานมากจะมีอาการรุนแรงกว่าคนที่ทานน้อย และคนที่ร่างกายแข็งแรงจะทนต่อการขาดน้ำได้ดีกว่าค่ะ

ระหว่างนี้คุณพ่อคุณแม่เองก็ควรสังเกตลูกด้วยว่ามีอาการขาดน้ำหรือไม่ ลักษณะของอาการ ได้แก่ ปากแห้ง กระบอกตาลึก กระหม่อมบุ๋ม ชีพจรเต้นเร็วและปัสสาวะน้อยลง ถ้าพบสัญญาณเหล่านี้ให้รีบพาลูกไปหาหมอทันทีค่ะ ถ้าอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เราควรให้ลูกดื่มน้ำเกลือแร่ต่อไป พยายามให้ลูกดื่มนมทีละน้อยๆ แต่บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อาเจียน ส่วนอาหารการกินของลูกควรเป็นอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊กหรือข้าวต้ม เพราะย่อยง่าย 

อาหารที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

• สลัดที่ราดมายองเนสมากๆ 

• ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด รวมทั้งเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค

• ไข่ดิบ 

• สัตว์มีเปลือกเช่น กุ้ง หอย หอยแครง หอยแมลงภู่ 

• น้ำผลไม้สดไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ

• ถั่วงอก และผักลวกที่ลวกทิ้งไว้นาน

• นมสดที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ และเนยแข็ง

• อาหารกระป๋องที่หมดอายุ

• พริกดองสำหรับปรุงรส 

วิธีป้องกันอาหารเป็นพิษ

1. ล้างมือด้วยน้ำสบู่ทั้งก่อนและหลังทำกับข้าว

2. ควรแยกอาหารสด อาหารแห้ง ผักผลไม้ ไข่ไก่ออกจาก เพราะเชื้อโรคจากเปลือกไข่ หรือจากเนื้อสัตว์อาจหลุดเข้ามาปะปนในอาหารอื่นๆ ได้

3. อย่าทิ้งเนื้อสดไว้นอกตู้เย็น เพราะอุณหภูมิที่ร้อนจะเร่งให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

4. ควรมีกล่องหรือภาชนะที่ปิดสนิทใส่เนื้อหมู เนื้อไก่ เพื่อป้องกันกลิ่นและเชื้อโรคปนเปื้อนอาหารอื่นๆ

5. ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำจากก๊อก แช่ด่างทับทิมหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต และควรแช่ไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

6. ควรแยกเขียงสำหรับเนื้อสัตว์ไว้ต่างหาก และเมื่อใช้เสร็จควรขัดให้สะอาดแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น

อาหารเป็นพิษเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวลูกเรามาก คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามปรุงอาหารให้สะอาด และสุกอยู่เสมอ รวมทั้งล้างมือก่อนและหลังทานข้าว รวมถึงเลือกอาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี เพราะนอกจากจะปลอดภัยจากอาหารเป็นพิษแล้ว ยังถือเป็นการเลี้ยงลูกแบบ Advance ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

judolbet88 slot gacor judolbet88 slot judolbet88 login