ช้อปออนไลน์
เข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก
ช้อปออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
รู้จัก Dairy Goat
คุณประโยชน์นมแพะ
มารู้จักนมแพะ
ประโยชน์นมแพะ
โปรตีนย่อยง่ายในนมแพะ
Prebiotic ในนมแพะ
ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับนมแพะ
ผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์นมแพะ DG จากประเทศนิวซีแลนด์
DG Regular กับ DG Advance Gold ต่างกันอย่างไร
ช่องทางการจัดจำหน่ายนมแพะ DG
เทคนิคการเปลี่ยนนม
เคล็ดลับคุณแม่
สาระดีดีเกี่ยวกับแม่และเด็ก
เมนูลูกรัก
VDO
กิจกรรม & Events
DG Yummy Truck เส้นทางความอร่อย
Booth & Events กิจกรรมสนุกๆ
ติดต่อเรา
ช้อปออนไลน์
เคล็ดลับคุณแม่
รวมทุกเคล็ดลับที่คุณแม่อยากรู้
เกี่ยวกับลูกน้อย
หน้าแรก
/
เคล็ดลับคุณแม่
/
โภชนาการและสารอาหารเพื่อลูกรัก
บทความยอดนิยม
5 อาหารย่อยง่าย ช่วยลูกสบายท้อง
5 อาหารย่อยง่าย ช่วยลูกสบายท้อง อาหารบางชนิดส่งผลกับระบบย่อยอาหาร ทำให้ลูกท้องอืด เพราะเป็นอาหารที่ย่อยยาก การเลือกอาหารที่ย่อยง่ายช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดี และสบายตัวมากขึ้น อาหารเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญเนื่องจากจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของลูก อาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน หรือ 2-3 ปี คือ ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ย่อยง่าย และนม นอกจากสารอาหารที่ครบถ้วนแล้วเรื่องการขับถ่ายก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน อาหารบางชนิดส่งผลกับระบบย่อยอาหารทำให้ท้องผูก ท้องอืดจนลูกไม่สบายตัว และขัดขวางการเรียนรู้ได้ ดังนั้นเรามาดูวิธีการเลือกอาหารที่ช่วยให้ลูกขับถ่ายสบายตัวกันค่ะ ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูง และมีไฟเบอร์สูงช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้ดี มีการวิจัยพบว่าเด็ก ที่ชอบกินข้าวโอ๊ตจะมีสมาธิสูงและให้ความสนใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มขึ้น บล็อกโคลี่ เป็นผักสีเขียวที่มีเส้นใยอยู่สูงช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และควรกินแบบปรุงสุกเท่านั้นเพื่อช่วยเสริมการย่อยที่ง่ายขึ้น ถ้าเป็นเด็กโตก็สามารถกินแบบต้มหรือผัดได้เลย แต่ถ้าเด็กเล็กควรต้มให้นิ่มหรือบดก่อนค่ะ แครอท เป็นหนึ่งวัตถุดิบที่ไม่ใช้แค่เพียงเพิ่มสีสันให้อาหารของลูกๆ น่ากิน แต่สามารถทำให้ระบบขับถ่ายของลูกทำงานได้ปกติ เพราะในแครอทมีไฟเบอร์สูง เมนูจากแครอททำได้หลากหลายทั้งกินสด ผัด ต้ม คั้นเป็นน้ำผลไม้ก็ยังได้ ผลไม้ ผลไม้ทุกอย่างดีต่อเด็ก ๆ เพราะอุดมไปด้วยวินตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ผลไม้บางชนิดมีไฟเบอร์สูงเช่น มะละกอ ลูกพรุน ลูกแพร์ กล้วย ส้ม กีวี เบอร์รี ที่ช่วยให้เด็กขับถ่ายเป็นปกติ คุณแม่ควรเลือกให้ลูกกินผลไม้ที่หลากหลายเพื่อประโชยน์ที่ครบถ้วน นมแพะ มีพรีไบโอติกส์จากธรรมชาติในปริมาณที่สูง ทำให้ลดปัญหาท้องผูก นอกจากนี้นมแพะยังอุดมไปด้วย CPP โปรตีนนุ่ม ย่อยง่าย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้รวดเร็ว โปรตีนนุ่ม หรือ CPP คือ โปรตีนในนมแพะมีลักษณะที่นุ่ม ย่อยง่าย ช่วยในการดูดซึมเกลือแร่ต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม เข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในนมแพะมีแอลฟาเอสวันต่ำ และมีเบต้าเคซีนสูง ทำให้นมแพะถูกย่อยและดูดซึมง่าย อาหารย่อยง่ายสำหรับลูกๆ มีอยู่หลากหลาย เพียงแค่คุณแม่ใส่ใจเลือกวัตถุดิบที่ดีมีประโยชน์ และรังสรรค์เมนูให้เหมาะกับวัยของหนูๆ แค่ดี การกิน เล่น และเรียนรู้อย่างสมวัยก็หมดปัญหาท้องอืดกวนใจไปได้เลยค่ะ Ref: 1. Park et al. Small Ruminant Research 2007; 68: 88-113 2. Tsuchita et al. British Journal of Nutrition 2001; 85, 5-10
เมนูนมแพะ, ลูกไม่อึ, โภชนาการดี, นมแพะ ดีจี, นมแพะ DG
5 ผลไม้สำหรับเด็ก ตัวช่วยลูกท้องผูก
5 ผลไม้สำหรับเด็ก ตัวช่วยลูกท้องผูก เพื่อดูแลระบบขับถ่ายลูกให้ดีขึ้นได้ เรามีตัวอย่างผลไม้ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายลูกมาฝากกันค่ะ ช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัย 6 เดือน ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารหลักจากนมแม่ แต่พอหลังจากช่วงวัยนี้ไป ลูกน้อยจะเริ่มทานอาหารเสริมได้แล้ว ซึ่งอาจทำให้ระบบขับถ่ายของลูกน้อยเปลี่ยนแปลงไป ขับถ่ายได้ไม่ดีเท่ากับตอนที่ดื่มนมแม่อย่างเดียว คุณแม่อาจจะหาอาหารเสริมหรือผักผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการขับถ่ายมาให้ลูกน้อยรับประทาน เพื่อเสริมแร่ธาตุ วิตามิน และดูแลระบบขับถ่ายให้ลูกกันค่ะ เรามีผลไม้ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายลูกมาฝากกันค่ะ 5 ผลไม้ตัวช่วยลูกท้องผูก กล้วยน้ำว้าสุก กล้วย เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายของเด็ก ช่วยแก้อาการท้องผูก เมื่อเด็กได้รับประทานกล้วย โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าสุกเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้เด็กไม่มีอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยอาหารอยู่มาก จึงช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก และมีคุณค่าทางอาหารสูง มะละกอ มะละกอ เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ไม่ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อได้รับประทานมะละกอแล้วจะทำให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้อย่างปกติ และสบายท้อง หมดปัญหาเรื่องอาการแน่นท้อง ท้องผูก แตงโม แตงโม เป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะจึงสามารถช่วยแก้กระหาย ดับร้อนได้ เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เด็กๆมักจะชอบรับประทาน ที่สำคัญดีต่อระบบขับถ่ายของเด็กอีกด้วย นอกจากนี้แตงโมยังมีสรรพคุณในการช่วยล้างทำความสะอาดไตในวัยผู้ใหญ่ด้วยค่ะ ส้ม ส้ม เป็นผลไม้มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยป้องกันไข้หวัด แถมมีวิตามินซี ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กและช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันด้วย ซึ่งส้มก็มีหลากหลายสายพันธุ์ พันธุ์ที่นิยมให้เด็กๆรับประทานและดีต่อระบบขับถ่ายของเขาก็คือ พันธุ์ส้มเขียวหวาน แอปเปิ้ล แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยาระบาย เพราะมีสารเพคตินเป็นไฟเบอร์สำคัญในระบบย่อยอาหาร สามารถช่วยในการขับถ่ายมีประโยชน์ต่อลำไส้ รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสีย ทั้งยังมีวิตามิน A, B1, B2, B6, คลอไรด์ เหล็ก แคลเซียม และโซเดียม นอกจากผลไม้ที่จะช่วยส่งเสริมดูแลระบบขับถ่ายลูกให้ดีขึ้นแล้ว การเลือกโภชนาการอื่นๆ ก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วยค่ะ เช่น การเลือกนมให้กับลูก ต้องเลือกนมที่มีสารอาหารจากธรรมชาติ อย่างนมแพะ* ซึ่งมีโปรตีนนุ่มและย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืด หรือท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายลูกเป็นปกติ Ref: 1. Park et al. Small Ruminant Research 2007; 68: 88-113 2. Tsuchita et al. British Journal of Nutrition 2001; 85, 5-10
โภชนาการดี, นมแพะ ดีจี, ใยอาหาร, ท้องผูก, นมแพะ DG
เช็กด่วน! ลูกขาดสารอาหารไหม กับ 4 อาการนี้
เช็กด่วน! ลูกขาดสารอาหารไหม กับ 4 อาการนี้ เจ้าตัวเล็กของคุณแม่จะเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงมีพัฒนาการดี นอกจากการดูแลเอาใจใส่ของคุณแม่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากสารอาหารที่มีประโยชน์ที่ลูกได้รับในแต่ละวันด้วยนะคะ เอ๊ะ... แล้วคุณแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกมีภาวะขาดสารอาหารหรือเปล่า แล้วจะทำอย่างไรให้ลูกรักห่างไกลจากภาวะนี้เรามี 4 สัญญาณเตือน พร้อมวิธีแก้ มาฝากค่ะ 1. อารมณ์ฉุนเฉียว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ควรเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร ไขมันที่จำเป็น และโอเมก้า3 มีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ของเด็กๆ พบมากในนม เนย และปลาแซลมอน จะช่วยรักษาระดับไขมันในสมองให้ทำงานได้อย่างปกติ หากขาดไขมันดีเหล่านี้ เด็กๆจะอารมณ์แปรปรวน คุณแม่ควรเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร และเพิ่มแครอทด้วย เพื่อให้ร่างกายลูกดูดซึมวิตามิน และแร่ธาตุได้ดียิ่งขึ้น 2. ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล ควรเพิ่มเมนูอาหารจำพวกโปรตีน อาการดังกล่าวเกิดจากการสั่งการของสมอง และมีผลกระทบจากการขาดโปรตีน หรือขาดกรดอะมิโนที่จำเป็นในการสร้างเซลล์ประสาทและฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งฮอร์โมนมีส่วนในการสร้างความสุข ลดอาการเครียด คุณแม่ควรเพิ่มเมนูอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว และถั่วต่างๆ 3. กระสับกระส่าย ไฮเปอร์ตลอดเวลา ควรหลีกเลี่ยงอาหารปรุงแต่งกลิ่น หรือสีต่างๆ ปัญหานี้เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร ซึ่งส่งผลให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้น้อย กระสับกระส่าย คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารปรุงแต่งกลิ่น หรือสีต่างๆกับลูก เพราะอาหารเหล่านี้ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร 4. ผิวหนังแห้ง และปัญหาเส้นผมต่างๆ ควรเสริมด้วยอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน เนื่องจากร่างกายขาดสารอาหาร และวิตามินต่างๆเช่น วิตามินเอ ดี อี และเค ทำให้ผิวพรรณไม่สดใส เส้นผมขาดร่วง คุณแม่ควรเสริมวิตามินเหล่านี้ด้วยการให้รับประทานผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ผักใบเขียว หรือน้ำมันตับปลา หากลูกของคุณแม่ส่ง 4 สัญญาณเตือนเหล่านี้ แล้วล่ะก็ คุณแม่ควรเริ่มปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็น มีประโยชน์และได้รับอย่างเพียงพอนะคะ
พัฒนาการลูก, โภชนาการดี, สารอาหาร, นมแพะ ดีจี, นมแพะ DG
เคล็ดลับเริ่มให้ลูกกินปลาทะเล
เคล็ดลับเริ่มให้ลูกกินปลาทะเล สำหรับคุณแม่ที่จะเริ่มให้ลูกกินปลาทะเล แต่ยังลังเลว่าจะเริ่มให้อย่างไรดี เป็นปลาอะไรได้บ้าง และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง เรามี เคล็ดลับเริ่มให้ลูกกินปลาทะเล มาฝากกันค่ะ ปลาทะเลเป็นปลาที่มีโอเมก้า และดีเอชเอสูง มีโปรตีน และกรดไขมันที่จำเป็นและมีประโยชน์ ต่อร่างกายโดยเฉพาะช่วยบำรุงสมอง ซึ่งควรเริ่มให้ลูกกินปลาทะเล หลังจาก 1 ขวบเป็นต้นไป เพราะถ้าเริ่มเร็วลูกอาจจะมีอาการแพ้ได้ ซึ่งในช่วงก่อนหนึ่งขวบ คุณแม่สามารถเลือกอาหารอื่น หรือนมที่มีโอเมก้า 3 6 9 และ กรดไขมันดีเอชเอ เพื่อช่วยเสริมให้กับลูกๆ ได้ค่ะ เช่น ผักโขม ไข่ไก่ ดอกกะหล่ำ นมแพะ ฯลฯ เลี่ยงปลาทะเลน้ำลึก เลี่ยงสารเคมีตกค้าง ปลาทะเลบางชนิดที่เป็นปลาน้ำลึก หรือมีวงจรชีวิตค่อนข้างยาวนานอาจจะเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างในตัวปลาได้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับลูกๆ ที่ยังเล็กมากค่ะ เช่น ปลาทูน่า เลือกปลาทะเลที่ สด สะอาด เลือกซื้อปลาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ สะอาด ดูความสดของปลาได้จากตาปลาควรมีสดใส เหงือกปลาเป็นสีแดงสด ท้องปลาไม่มีรอยแตก แต่ถ้าซื้อปลาแช่แข็งควรเลือกปลาผลิตจากแหล่งที่ได้รับรองมาตรฐานเรื่องความปลอดภัย และมาตรฐานอาหาร ถุงบรรจุมีวันที่ผลิต วันหมดอายุ แสดงไว้ชัดเจน เลือกปลาทะเลที่ไม่มีก้าง หรือมีก้างขนาดใหญ่ ปลาที่มีก้างขนาดใหญ่สามารถเอาออกได้ง่าย ป้องกันก้างติดคอลูกน้อยค่ะ เช่น ปลากะพง เนื้อไม่แข็งมาก ถ้าลูกยังบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดี ควรเลือกปลาที่เนื้อไม่แข็งมาก เริ่มให้ปลาทะเลทีละน้อย และทีละชนิด เพื่อทดสอบว่าลูกมีอาการแพ้หรือไม่ โดยลองประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นปลา หรืออาหารชนิดอื่น ถ้าลูกแพ้จะได้หลีกเลี่ยงได้ในครั้งต่อๆ ไป
ฝึกลูกกินปลาทะเล, เด็กกินยาก, โภชนาการดี, นมแพะ ดีจี, นมแพะ DG
ดูแลระบบขับถ่ายลูกด้วย 2 ใยอาหารป้องกันท้องผูกที่มีมากในนมแพะ
ดูแลระบบขับถ่ายลูกด้วย 2 ใยอาหารป้องกันท้องผูกที่มีมากในนมแพะ ปัญหาท้องผูก ลูกอึแข็ง ถ่ายยาก เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มักพบในเด็กที่ดื่มนมเสริม แต่สำหรับนมแพะที่มีใยอาหารสำคัญ 2 ชนิดช่วยดูแลระบบขับถ่าย ป้องกันลูกท้องผูก เด็กนมแพะจึงไม่ค่อยมีปัญหานี้กวนใจค่ะ ในทางวิชาการและผลการวิจัยพบว่า ในนมแพะมีสารอาหารที่เรียกว่า พรีไบโอติก (Prebiotics) หรือใยอาหารชนิดน้ำ Oligosaccharide ที่จำเป็นต่อการย่อยและระบบขับถ่ายในร่างกายมนุษย์ ช่วยลดและป้องกันอาการท้องผูก ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้นั่นเอง (Neveu et al. Reprod Nutr Dev. 2002; 42:163-172.) 2 ใยอาหารป้องกันท้องผูกที่มีมากในนมแพะ 1. อินนูลิน (Inulin) คือ คาร์โบไฮเดรต จัดเป็นใยอาหารประเภทที่ละลายได้ในน้ำซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารและไม่ให้พลังงาน แต่ถูกย่อยได้ด้วยแบคทีเรียที่อยู่ในส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ มีสมบัติเป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ คือเป็นอาหารของแบคทีเรียในกลุ่มโปรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งอยู่ในลำใส้ใหญ่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ บิฟิดิโอแบคทีเรีย (bifidobacteria) เมื่อมีจุลินทรีย์สุขภาพในปริมาณมากก็ดีกับระบบทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบในทางเดินอาหาร รวมถึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและลดปัญหาท้องผูกอีกด้วย อินนูลินยังมีผลช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ในเลือด และลดระดับคอเรสเตอรอลจึงดีกับสุขภาพไม่ทำให้อ้วน 2. โอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) เป็นโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide) ซึ่งเป็นใยอาหาร หรืออาหารของจุลันทรีย์ชนิดดีในส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ ที่จะช่วยดูแลระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ปกติ ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ อินนูลินและโอลิโกฟรุคโตส เป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของลูกเรา เมื่อลูกดื่มนมแพะที่มีใยอาหาร 2 ชนิดนี้ จุลินทรีย์ก็มีอาหาร จึงเพิ่มจำนวนขึ้นเยอะ และเมื่อจุลินทรีย์มีจำนวนมากก็จะช่วยกันทำงานให้ลำไส้ใหญ่และระบบขับถ่ายดี ขับถ่ายเป็นเวลา ลดการสะสมของของเสีย ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันการติดเชื้อได้นั่นเอง และนี่คือเหตุว่าทำไมเด็กนมแพะถึงไม่ท้องผูก เพราะในนมแพะมีใยอาหารสุดเจ๋งนั่นเอง คุณแม่รู้ไหม? จริงๆ แล้วลูกของเราได้รับอินนูลินและโอลิโกฟรุคโตสตั้งแต่วันแรกที่เกิดแล้ว เพราะเด็กๆ ทุกคนที่ดื่มนมแม่จะได้รับสารอาหารครบถ้วนกว่า 200 ชนิด อินนูลินและโอลิโกฟรุคโตสก็เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ลูกได้รับจากนมแม่เช่นกัน สังเกตง่ายๆ ว่าเด็กนมแม่ทุกคนจะขับถ่ายดี อึนุ่ม อึไม่แข็ง และไม่ท้องผูก เมื่อลูกถึงวัยเริ่มอาหารเสริม คุณแม่จึงควรให้ลูกกินอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มนมที่เหมาะกับวัยเพื่อสุขภาพที่ดีต่อยอดไปถึงพัฒนาการในอนาคตค่ะ
ประโยชน์นมแพะ, นมแพะ ดีจี, ใยอาหาร, ท้องผูก, นมแพะ DG
บทความยอดนิยม
3 เมนู สร้างลูกพัฒนาการดี ตั้งแต่มื้อแรก
3 เมนู สร้างลูกพัฒนาการดี ตั้งแต่มื้อแรก มื้อแรก คือกุญแจสำคัญ ป้อนดี ถูกหลักโภชนาการจะช่วยส่งเสริมสุขภาพ สร้างพัฒนาการที่ดี อีกทั้งยังปลูกฝังลักษณะนิสัยการรับประทานที่ดีให้กับลูก พี่แพะมีไอเดีย 3 เมนูมื้อแรกมาฝากค่ะ “ข้าวต้มตำลึงจอมพลัง” ข้าวต้ม+ไข่แดงสุก+ตำลึง ขั้นตอนการทำ ต้มข้าวต้มสุกนำมาบดร่วมกับไข่แดงต้มสุก แล้วโรยด้วยใบตำลึงต้มจนเปื่อยบดให้ละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าอาหารหนืดเกินไปคุณแม่สามารถเติมนมแพะ หรือน้ำซุปที่ไม่ผ่านการปรุงรสได้ค่ะ คุณค่าที่ลูกได้รับ ข้าว : เพิ่มพลังงาน เสริมสร้างการเจริญเติบโต ไข่แดง : ช่วยบำรุงสมอง และการทำงานของระบบประสาท ตำลึง : มีเบต้าแคโรทีนสูง บำรุงสายตา เสริมสร้างกระดูกและฟัน “ซุปฟักทองกระตุ้นการขับถ่าย” ฟักทองต้ม+ข้าวต้ม+นมที่ลูกดื่ม ขั้นตอนการทำ ต้มฟักทองคว้านเอาแต่เนื้อที่ต้มสุก มาผสมกับข้าวต้มสุก แล้วนำไปปั่นรวมกัน เติมนมแพะลงไป คุณค่าที่ลูกได้รับ นม : แคลเซียมที่ดีต่อกระดูก เพิ่มภูมิคุ้มกันอย่างเป็นธรรมชาติ ฟักทอง : เพิ่มเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย ข้าว : ให้พลังงานที่ดี เสริมสร้างร่างกาย และพัฒนาการ ข้าวตุ๋นมะเขือเทศ บำรุงสมอง” ข้าวต้มสุก+มะเขือเทศ+ปลากะพงขาวบด ขั้นตอนการทำ ต้มข้าวต้มจนสุก นำมะเขือเทศไปลวกจนสุกปอกเปลือกออก และนำเมล็ดด้านในออกให้เหลือแต่เนื้อ จากนั้นแกะเนื้อปลากะพงขาวที่ต้มแล้ว ระวังก้างปลาให้ดี นำไปปั่นรวมกัน ถ้าหนืดสามารถเติมน้ำซุปที่ไม่ปรุงรสได้ค่ะ คุณค่าที่ลูกได้รับ ข้าว : โปรตีน วิตามิน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างการเจริญเติบโตที่ดี ปลากะพงขาว : บำรุงประสาท เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เสริมสร้างความจำ มะเขือเทศ : เบต้าแคโรทีน อุดมไปด้วยแคลเซียม และวิตามิน ผิวพรรณดี ขับถ่ายคล่อง บำรุงสายตา สำหรับเด็ก นมยังคงเป็นอาหารสำคัญควบคู่กับมื้ออาหาร ค่อยๆ เพิ่มมื้ออาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัย และความต้องการของลูก และในเด็กที่ถึงวัยรับนมเสริม คุณแม่สามารถช่วยเพิ่มสารอาหารให้ลูกได้ด้วยการเลือกนมที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ย่อยง่าย ไม่ก่อแพ้ และดูดซึมได้ดี จะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
โภชนาการเด็ก, พัฒนาการลูก, โภชนาการดี, เมนูลูกรัก, นมแพะ DG
เปิดเทคนิค ดูแลโภชนาการแม่ท้อง และลูกน้อย
เปิดเทคนิค ดูแลโภชนาการแม่ท้อง และลูกน้อย ท้องนี้บำรุงอย่างไรดีให้ถึงลูกน้อยในท้อง และคุณแม่ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ สุขภาพแข็งแรง พัฒนาการดีตั้งแต่ในครรภ์ เปิดเทคนิคดีๆ ที่นี่เลยค่ะ ช่วง 0-3 เดือน "ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง ช่วยลดอาการคลื่นไส้วิงเวียน" ช่วงนี้คุณแม่ส่วนใหญ่มักมีอาการแพ้ท้อง อันเนื่องมาจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อย เพื่อไม่ให้ลูกน้อยในท้องขาดสารอาหาร และคุณแม่ไม่อ่อนเพลีย ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยขึ้น และไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง เพื่อลดอาการคลื่นไส้ และวิงเวียนค่ะ ช่วง 4-6 เดือน "บำรุงสมอง และร่างกายลูกน้อย" ด้วยอาหารที่หลากหลาย ในช่วงไตรมาสที่ 2 คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย ครบถ้วน 5 หมู่ และเน้นผักใบเขียว ที่มีวิตามินสูง เช่น คะน้า ผักบุ้ง แคร์รอต ฯลฯ ช่วงนี้ลูกน้อยกำลังพัฒนา เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่าลืมบำรุงด้วยอาหารที่มีโปรตีน โอเมก้า3 และดื่มนมที่มีสารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติ ดีต่อระบบขับถ่าย ย่อยง่าย เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ ช่วง 7-9 เดือน "เน้นอาหารที่มีกากใย ดีต่อระบบขับถ่าย" ในช่วงไตรมาสที่สามนี้ มดลูกคุณแม่มีการขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับลำไส้ใหญ่ ทำให้การทำงานของระบบขับถ่ายไม่สมบูรณ์ บวกกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจส่งผลให้ท้องผูก จึงควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เลือกดื่มนมที่ดีต่อระบบขับถ่าย มีโปรตีนนุ่ม และย่อยง่าย อย่างเช่นนมแพะ เพิ่มอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ และเริ่มเตรียมพร้อมบำรุงน้ำนม เพื่อสร้างน้ำนมหลังคลอดค่ะ คุณแม่อย่าลืมนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสม ร่วมกับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เบบี๋ในครรภ์พัฒนาการสมวัยอย่างเป็นธรรมชาติ ประโยชน์ดีๆ ที่ได้ทั้งคุณแม่ และคุณลูกตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ค่ะ
การดูแลครรภ์, สุขภาพแม่ตั้งครรภ์, อาหารบำรุงครรภ์, คนท้องต้องกินอะไร, เครื่องดื่มสำหรับคนท้อง
วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นกับแม่ท้องมากแค่ไหน
วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นกับแม่ท้องมากแค่ไหน ถึงจะท้องก็ต้องสวยเสมอ แต่วิตามินและอาหารเสริมที่เคยรับประทานนั้น ช่วงตั้งท้องควรหามารับประทานดีมั้ย หรืออย่าหาทำดี ช่วงตั้งท้องฮอร์โมนร่างกายคุณแม่จะเปลี่ยน ทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แม่ท้องบางคนมีปัญหาเรื่องสิว ฝ้า กระ ผิวแห้ง หรือแม้แต่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมา การรับประทานอาหารเสริมจะช่วยควบคุมอาหารได้มั้ย แล้วจะมีผลกับลูกในท้องหรือเปล่า สำหรับคุณแม่ที่รู้ตัวว่าท้อง หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ คุณหมอแนะนำว่าควรหยุดยาต่างๆ ที่เคยรับประทานทันที แล้วนำยาเหล่านั้นไปปรึกษาคุณหมอว่าสามารถรับประทานต่อได้หรือไม่ เนื่องจากมียาบางชนิดที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานเด็ดขาด เนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้ ส่วนวิตามินหรืออาหารเสริมนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด แบบน้ำ แบบผงชงกับน้ำ คุณแม่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงไปก่อนดีกว่าค่ะ เพราะหากรับประทานเข้าไปแล้วอาจส่งผลกระทบต่อลูกในท้องได้ อาหารเสริมที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยง กลูตาไธโอน อาหารเสริมที่ชูสรรพคุณช่วยให้ผิวสวยใส ซึ่งตั้งครรภ์คุณแม่ควรงดเด็ดขาด เนื่องจากกลูต้าไธโอนมีค่าวิตามินซีและวิตามินเอที่สูงเกินไป อาจผลกระทบต่อทารกในครรภ์ทำให้ลูกเกิดมามีความผิดปกติทางผิวหนังได้ คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผ่านการสังเคราะห์ อาจมีการปนเปื้อนสารอันตรายต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ แม้ว่าจะมีการอ้างสรรพคุณว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวพรรณ มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีความจำเป็นใดๆ คุณแม่ควรงดก่อนค่ะ อาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 เน้นผัก ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินจากธรรมชาติ และดื่มนมทุกวัน และรับประทานวิตามินของคนท้องตามที่คุณหมอแนะนำ ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น บำรุงผิวพรรณด้วยโลชั่นหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแม่ท้องโดยเฉพาะ เท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของคุณแม่และทารกตัวน้อยในครรภ์แล้ว
การดูแลครรภ์, สุขภาพแม่ตั้งครรภ์, คู่มือแม่ท้อง, แม่ท้อง, อาหารบำรุงครรภ์
ลูกอายุเท่านี้ ให้นมเท่าไหร่ดี
ลูกอายุเท่านี้ ให้นมเท่าไหร่ดี ในการป้อนนมลูก เรื่องหนึ่งที่แม่ๆ หลายคนสงสัย คือ ควรให้ลูกดื่มนมเท่าไหร่ดีลูกถึงจะอิ่ม และเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แม่จะต้องเพิ่มปริมาณน้ำนมเป็นเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของเด็กๆ หลักการง่ายๆ คือ เด็กแรกเกิด – 1 เดือน จะดื่มนมแม่วันละ 100 - 150 ซีซี ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เวลาคำนวณจะใช้สูตร (น้ำหนักตัวลูก (กิโลกรัม) x 150 ) / 30 (1 ออนซ์เท่ากับ 30 ซีซี) = ปริมาณนมใน 1 วัน (ออนซ์) ดังนั้นถ้าลูกน้ำหนักตัว 3 กิโลกรัม คุณแม่จะคำนวณปริมาณนมที่ลูกดื่มใน 1 วันได้ (3 x 150) / 30 = ปริมาณนม 15 ออนซ์ ต่อวัน (เพิ่มลดได้ไม่เกิน 4 ออนซ์) ซึ่งในแต่ละวันเด็กทารกจะดื่มนมแม่ประมาณ 8 - 12 มื้อ หากใน 1 วันลูกดูดนมแม่ 8 มื้อ แต่ละมื้อ ลูกจะดื่มนมเท่ากับ 1.8 ออนซ์ (หรือประมาณ 2 ออนซ์) และเมื่อลูกอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ปริมาณนมที่ต้องการแต่ละวันจะลดลง เช่น วัย 1 – 2 เดือน น้ำหนักตัวลูกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1 กิโลกรัม และดื่มนมแม่วันละ 8 - 10 มื้อ แต่สูตรคำนวณจะเปลี่ยนเป็น (น้ำหนักตัวลูก (กิโลกรัม) x 120 ) / 30 / 8 = ปริมาณนมใน 1 มื้อ เช่น ลูกน้ำหนัก 4 กิโลกรัม x 120 / 30 / 8 จะดื่มนมวันละ 16 ออนซ์หรือมื้อละ 2 ออนซ์ วัย 3 – 4 เดือน น้ำหนักตัวลูกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1 กิโลกรัม ดื่มนมแม่วันละ 6 - 8 มื้อ หมายความว่าถ้าลูกหนัก 5 กิโลกรัม x 120 / 30 ลูกจะดื่มนมวันละ 20 ออนซ์หรือมื้อละประมาณ 2 ออนซ์ วัย 5 เดือน น้ำหนักตัวลูกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวของแรกเกิด หรือประมาณ 6 กิโลกรัม ความต้องการดื่มนมแม่จะตกวันละ 6 - 8 มื้อ คำนวณออกมาได้เป็น 6 x 120 / 30 ลูกจะดื่มนมวันละ 24 ออนซ์หรือมื้อละประมาณ 4 ออนซ์ วัย 6 – 7 เดือน น้ำหนักตัวลูกจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัวของแรกเกิด (ประมาณ 9 - 10 กิโลกรัม) ลูกสามารถรับประทานอาหารเสริมได้แล้ว 1 มื้อ ความต้องการน้ำนมต่อวันลดลง เป็น 5 - 6 มื้อ คุณแม่สามารถคำนวณได้เป็น 9 x 120 / 30 ลูกจะดื่มนมวันละ 36 ออนซ์ วัย 8 – 9 เดือน น้ำหนักตัวลูกยังคงเป็น 3 เท่าตัวของแรกเกิด แต่ลูกจะรับประทานอาหารเสริมได้เป็น 2 มื้อ ขณะที่ความต้องการน้ำนมต่อวันยังเท่าเดิมคือ 5-6 มื้อ ลูกจะดื่มนมวันละ 36 ออนซ์ วัย 10 – 12 เดือน น้ำหนักตัวลูกเป็น 3 เท่าตัวของแรกเกิด แต่เนื่องจากลูกสามารถรับประทานอาหารได้ครบ 3 มื้อแล้ว การดื่มนมแม่จึงเป็นเป็นเพียงอาหารเสริม ที่ลดลงเหลือเพียงวันละ 4 - 6 มื้อ เท่านั้น ลูกจะดื่มนมวันละ 36 ออนซ์ สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาให้นมลูกไม่ได้ น้ำนมน้อย หรืออยู่ระหว่างกู้น้ำนมจำเป็นต้องให้นมผสม สามารถใช้สูตรคำนวณเบื้องต้นมาปรับใช้ได้กับการชงนมให้ลูกได้เช่นกัน
เลือกนมแบบไหนให้ลูก, นมสำหรับเด็ก, นมแพะ ดีจี, นมแม่, นมแพะ DG
10 สารอาหารที่สร้างลูกแข็งแรงพัฒนาการดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์
10 สารอาหารที่สร้างลูกแข็งแรงพัฒนาการดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เป็นความจริงที่ว่าแม่รับประทานอาหารอะไรแล้วลูกมักจะได้รับสารอาหารต่างๆ เหล่านั้น ยิ่งแม่รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์มากเท่าไหร่ ลูกน้อยในครรภ์ก็ย่อมจะได้รับสารอาหารที่ดีมากเท่านั้น มาดูกันค่ะว่า 10 สุดยอดสารอาหารที่แม่รับประทานแล้วช่วยให้ลูกในท้องเติบโตแข็งแรง มีอะไรบ้าง แม่ๆ จะได้ซื้อหามาติดบ้านไว้ประจำ 1. โฟลิคหรือ กรดโฟลิคเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเติบโตของลูกน้อย ช่วยสังเคราะห์และซ่อมแซม DNA มีความสัมพันธ์กับการเกิดความพิการแต่กำเนิดของเด็กทารก เช่น ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ โรคหัวใจแต่กำเนิด เป็นต้น นอกจากนี้โฟลิคยังมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคโลหิตจางของแม่ท้องด้วย โดยแต่ละวันคุณแม่ควรได้รับการเสริมโฟลิค 0.4 – 0.8 mg ต่อวัน และสำหรับใครที่วางแผนการมีลูก ควรรับประทานโฟลิคล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ หรือในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพื่อลดโอกาสเกิดความพิการแต่กำเนิด 2. โปรตีนสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์ตัวอ่อน สร้างเนื้อเยื่อ สร้างอวัยวะต่างๆ รวมถึงสมองของลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งแต่ละวันแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานโปรตีนเฉลี่ยวันละ 1 g/kg โดยอาหารที่มีโปรตีนนั้น ได้แก่ เนื้อสัตว์ทุกชนิด เต้าหู้ นม ไข่ ถั่ว ธัญพืชต่างๆ เป็นต้น 3. แคลเซียมช่วยส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างกระดูกของทารกในครรภ์ รักษาความหนาแน่นของกระดูก และป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกของแม่เอง ทำให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ถ้าแม่ท้องได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ จะช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง ลดการเกิดตะคริวด้วย ซึ่งแม่ท้องควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม โดยอาหารที่มีแคลเซียมได้แก่ นมแพะ โยเกิร์ต ชีส ปลาตัวเล็ก กุ้งฝอย ธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง เต้าหู้ และผักใบเขียว เป็นต้น 4. คาร์โบไฮเดรตนอกจากเป็นพลังงานให้แม่แล้ว ยังจำเป็นต่อการสร้างสมองของลูกในท้องอีกด้วย โดยร่างกายจะย่อยแป้งแล้วเปลี่ยนเป็นกลูโคส หรือน้ำตาลที่มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งแต่ละวันแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับพลังงานมากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 300 - 500 กิโลแคลอรี และพลังงานส่วนใหญ่ก็มาจากแป้ง ข้าว น้ำตาล และผลไม้ต่างๆ 5. ธาตุเหล็กนอกจากจะทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจางของแม่แล้ว ธาตุเหล็กยังมีส่วนช่วยในการสร้างสมองของลูก ลดโอกาสเกิดภาวะบกพร่องทางสติปัญญาด้วย ซึ่งธาตุเหล็กมีมากใน งา ตับสัตว์ เนื้อแดง ไข่แดง ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม ฯลฯ 6. วิตามินซีมีส่วนช่วยสร้างเนื้อเยื่อ กระดูก และอวัยวะต่างๆ ของลูก ช่วยให้ร่างกายลูกทำงานได้ดี เสริมสร้างการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในไตรมาสแรกจะช่วยให้รกแข็งแรงทำให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้นด้วย อาหารที่มีวิตามินซีสูงได้แก่ บรอกโคลี ผักโขม คะน้า ส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เป็นต้น 7. ไอโอดีนช่วยพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาท และความจำของลูก หากแม่ท้องได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอจะทำให้ลูกในท้องแคระแกรน สมองเจริญเติบโตช้า พิการแต่กำเนิด และมีภาวะปัญญาอ่อนได้ แหล่งไอโอดีนที่สำคัญได้แก่ เกลือเสริมไอโอดีน อาหารทะเลต่างๆ เป็นต้น 8. ไขมันไม่ว่าจะเป็น โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 DHA ARA ต่างก็เป็นไขมันที่ที่ช่วยบำรุงสมองของทารกในครรภ์ ช่วยสร้างเซลล์สมองและจอประสาทตา เมื่อลูกคลอดออกมาก็ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อาหารที่แม่ควรกินได้แก่ ไข่ อโวคาโด ปลาทะเลน้ำลึก ปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลาสวาย น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันรำข้าว และธัญพืชต่างๆ เช่นเมล็ดทานตะวัน วอลนัท อัลมอนด์ เป็นต้น 9. สังกะสีมีความสำคัญในการเจริญของทารก หากขาดสังกะสีไปจะทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า อาหารที่มีธาตุสังกะสี ได้แก่ เนื้อแดง เนื้อสัตว์ปีก ปลา ปลาหมึก และอาหารทะเล เป็นต้น 10. วิตามินบี12ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม และช่วยให้การทำงานของสมองและประสาทให้เป็นปกติ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันการขาดธาตุเหล็ก ช่วยให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เป็นไปตามปกติ แหล่งวิตามินบี 12 พบมากในอาหารประเภท ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และหอยนางรม นอกจากสารอาหารทั้ง 10 ชนิดแล้ว คุณแม่ท้องควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ทั้งคุณแม่ และเด็กทารกในครรภ์เจริญเติบโตแข็งแรงจนถึงวันคลอด และเมื่อต้องให้นมลูกก็จะได้มีน้ำนมในปริมาณที่เพียงพอ เนื่องจากนมแม่เป็นนมที่มีกระบวนการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์เมื่อลูกดูดเข้าไปจะได้รับสารอาหารจากธรรมชาติอย่างครบถ้วนนั่นเอง
สารอาหารสำหรับแม่ท้อง, อาหารแม่ท้อง, อะโพไครน์, อาหารบำรุงครรภ์, คนท้องต้องกินอะไร
นมแพะไม่ใช่นมทางเลือก แต่เป็นนมที่แม่เลือกต่อจากนมแม่
นมแพะไม่ใช่นมทางเลือก แต่เป็นนมที่แม่เลือกต่อจากนมแม่ นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุด และแม่ทุกคนต่างก็คงคาดหวังว่าลูกจะต้องได้กินนมแม่ ทว่าด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง บางครั้งน้ำนมจากอกแม่ก็ไม่ได้ไหลออกมาง่ายๆ เสียทีเดียว ดังนั้นเมื่อไม่สามารถให้ลูกกินนมแม่ได้ ระหว่างที่เร่งกู้น้ำนม หรือในภาวะที่มีเหตุจำเป็น เช่น นมแม่ไม่พอ การให้ลูกกินนมเสริมก็เป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณแม่สามารถเลี้ยงดูลูก และส่งเสริมโภชนาการให้เจ้าตัวเล็กได้ ซึ่งนมที่แม่ๆ หลายคนต่างก็เทใจให้กับนมแพะ เนื่องจากนมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” (Apocrine) คือ ให้คุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วนจากธรรมชาติ มีประโยชน์สูง นอกจากนี้ ในนมแพะยังมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ เช่น นิวคลีโอไทด์ (nucleotides) มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และการทำงานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ โดยตรง ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน และการย่อยสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน ช่วยสังเคราะห์สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่สำคัญนิวคลีโอไทด์ยังมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และลดโอกาสจากเจ็บป่วยโรคต่างๆ เช่น ไข้ หวัด โรคติดเชื้อในลำไส้ โรคกระเพาะอาหาร หรือลำไส้อักเสบ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่างๆ ทั้งยังช่วยลดอาการท้องผูกท้องเสียของลูกด้วย ทอรีน (Taurine) ช่วยเรื่องการมองเห็น สร้างกระแสประสาท ควบคุมสารสื่อประสาทให้สมดุล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสารสื่อประสาทในสมองให้ดียิ่งขึ้น โพลีเอมีนส์ (polyamines) ช่วยในการส่งเสริมระบบทางเดินอาหารให้สมบูรณ์ โกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูกน้อย ในขณะที่การผลิตน้ำนมของวัวที่เป็นระบบการสร้างน้ำนมแบบเมโรไครน์ (merocrine) จะมีปริมาณของโปรตีนย่อยยากสูงกว่าในนมแพะ จึงทำให้ลูกมีโอกาสเสี่ยงในการแพ้นมวัวมากกว่านมแพะ ระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ (apocrine) จะพบในนมแม่และนมแพะเท่านั้น จึงทำให้นมแพะมีความใกล้เคียงนมของคนมากกว่านมผงทั่วๆ ไป เพราะฉะนั้นคุณแม่จึงอุ่นใจเมื่อเลือกนมแพะให้ลูก
สารอาหารในนม, นิวคลีโอไทด์, อะโพไครน์, นมแม่, นมแพะ DG
เช็กเลย สูตรเด็ดไม่ลับ ช่วยลูกรักพัฒนาศักยภาพ ด้วยระบบการสร้างน้ำนมแบบ อะโพไครน์
เช็กเลย สูตรเด็ดไม่ลับ ช่วยลูกรักพัฒนาศักยภาพ ด้วยระบบการสร้างน้ำนมแบบ อะโพไครน์ น้ำนมที่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ "อะโพไครน์" ให้คุณค่าสารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติสูงสุด ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกน้อยด้วยค่ะ อะโพไครน์ (Apocrine) เป็นระบบการสร้างน้ำนมที่มีเยื่อหุ้มเซลล์น้ำนม หรือสารอาหารธรรมชาติ หลุดออกมากับน้ำนมในปริมาณสูง ทำให้น้ำนมมีสารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ (Bioactive Component) ซึ่งมีสารอาหารสำคัญ และจำเป็นต่อร่างกาย คือ นิวคลีโอไทด์ (nucleotides) นิวคลีโอไทด์มีส่วนช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งยังมีบทบาทช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง ออกซิเจน และสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทอรีน (Taurine) ช่วยสร้างกระแสประสาท ควบคุมสารสื่อประสาทให้สมดุล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสารสื่อประสาทในสมองให้ดียิ่งขึ้น โพลีเอมีนส์ (polyamines) ช่วยในการส่งเสริมระบบทางเดินอาหารให้สมบูรณ์ โกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูกน้อย เช็กเลยแบบไหนเรียก "พัฒนาการที่เด่นชัดของลูกวัย 2 ขวบปีแรก"? วัย 12-18 เดือน พยายามหัดยืนและเดิน จะยืนได้เองชั่วครู่ และทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ปีนขึ้นบันไดได้แต่ต้องมีคนช่วย ลงบันไดโดยการคลานถอยหลัง ถ้าเดินลงต้องช่วยจับแขน กระโดดสองขาได้ วางของซ้อนกันได้ 2 ชิ้น ชอบลาก ผลัก ดันสิ่งต่างๆ พยายามปีนป่ายหรือเอื้อมหยิบของเอง เรียกชื่อพ่อแม่ หรือพูดคำพยางค์เดียวที่มีความหมายได้ ใช้ช้อนตักอาหารเองได้ แต่ยังหกเลอะเทอะอยู่ วัย 18-24 เดือน ขึ้นบันไดได้แต่ต้องใช้มือหนึ่งจับราว ชอบวิ่ง ปีนป่าย กระโดดอยู่กับที่ เดินทีละก้าวบนกระดานไม้แผ่นเดียวได้ เดินถอยหลังได้ วางของซ้อนกันได้ 4-6 ชั้น แยกสีได้ 2 สี ขีดเขียนเส้นยุ่งๆ ขีดเส้นตรงในแนวดิ่งได้ ขี่จักรยาน 3 ล้อได้ เริ่มถนัดใช้มือข้างใดข้างหนึ่งแล้ว ชี้รูปภาพตามบอกได้ ร้อยลูกปัดเม็ดใหญ่ๆ ได้ ใช้ช้อนตักอาหารเองได้ เริ่มถอดเสื้อผ้าเองได้ นมที่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” (Apocrine) นั้นพบได้ในนมแม่ และนมแพะ อย่างไรก็ดี ระดับพัฒนาการที่โดดเด่นของลูกไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการดื่มนมเพียงอย่างเดียว คุณแม่ควรให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ ใส่ใจดูแลลูกด้วยความรักความอบอุ่น และให้ลูกทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัยของลูกอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ Ref : https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/daycare/admin/news_files/4_85_1.pdf
สารอาหารในนม, เช็กลิสต์พัฒนาการ, นิวคลีโอไทด์, อะโพไครน์, นมแม่
ระบบการสร้างน้ำนมของนมแม่ นมแพะ และนมวัว แตกต่างกันอย่างไร
ระบบการสร้างน้ำนมของนมแม่ นมแพะ และนมวัว แตกต่างกันอย่างไร น้ำนมที่มีสารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติ เริ่มต้นจากระบบการสร้างที่ดี ซึ่งน้ำนมแม่ น้ำนมแพะ และน้ำนมวัว มีระบบการสร้างที่แตกต่างกัน หรือเหมือนกันอย่างไร เราจะพามารู้จักเลยกันค่ะ นมแม่ นมแม่ มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” (Apocrine Secretion) ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างน้ำนมแบบหนึ่ง ที่ให้สารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง กระบวนการแบบอะโพไครน์นี้จะทำให้มีเยื่อหุ้มเซลล์น้ำนมหลุดออกมากับนมในปริมาณสูง เรียกกันว่า “ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์” ซึ่งเป็นสารอาหารธรรมชาติที่ดีกับร่างกายของลูกน้อย นมแพะ นมแพะ มีระบบการสร้างน้ำนมเช่นเดียวกับนมแม่ คือ แบบอะโพไครน์ ซึ่งทำให้ในน้ำนมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติที่ เรียกกันว่า “ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์” ที่ได้จากเยื่อหุ้มเซลล์น้ำนมหลุดออกมากับน้ำนม ที่มีส่วนประกอบสำคัญ 4 ชนิดด้วยกัน คือ นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โคลีน โพลิเอมีน นมวัว ระบบการสร้างน้ำนมของวัวเป็นแบบเมโรไคน์ (Merocrine Secretion) ซึ่งในกระบวนสร้างน้ำนมแบบเมโรไคน์นั้น จะปล่อยน้ำนมออกจากเซลล์โดยที่เยื่อหุ้มเซลล์ไม่หลุดออกมาด้วย ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารจากธรรมชาติเช่นเดียวกับในนมแม่ หรือนมแพะที่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ คุณแม่รู้ระบบการสร้างน้ำนมของนมแม่ นมแพะ และนมวัวแล้วใช่ไหมคะ สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาในการให้นมลูก หรือต้องการเสริมอาหารอย่างอื่นให้ลูก เพื่อให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดี นมแพะ ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้ลูกดื่มนะคะ เพราะนมแพะก็มีระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์เช่นเดียวกับคน
ไบโอแอคทีฟ, อะโพไครน์, ภูมิคุ้มกัน, นมแม่, นมแพะ DG
นมแพะและนมวัว ดีแตกต่างกันอย่างไร นมประเภทไหนเหมาะกับลูกน้อย
นมแพะและนมวัว ดีแตกต่างกันอย่างไร นมประเภทไหนเหมาะกับลูกน้อย ก่อนจะเลือกนมให้ลูกดื่ม มีคุณแม่หลายคนสงสัยว่านมแพะกับนมวัว มีสารอาหารแตกต่างกันอย่างไร และมีระบบการสร้างน้ำนมอย่างแบบไหน เราจะพามาดูกันค่ะ เพื่อให้คุณแม่ได้ทราบข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกนมที่เหมาะกับลูก นมแพะ นมแพะ มีระบบการสร้างน้ำนมเช่นเดียวกับคน คือ “อะโพไครน์” ซึ่งทำให้ในน้ำนมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติที่ เรียกกันว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ ที่ได้จากเยื่อหุ้มเซลล์น้ำนมหลุดออกมากับน้ำนม ที่มีส่วนประกอบสำคัญ 4 ชนิดด้วยกัน คือ นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โคลีน โพลิเอมีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต ให้ลูกแข็งแรง พัฒนาการสมวัยอย่างเป็นธรรมชาติ ปริมาณสารอาหารในนมแพะ สูตร DG3 Advance Gold นมแพะ 65% มอลโตเด็กซ์ตริน 23% ฟรุคโตส 8.6% ใยอาหาร (อินูลินและโอลิโกฟรุคโตส) 4.2% แร่ธาตุรวม 0.6% น้ำมันปลาเอ็นแคปซูเลทที่ให้กรดดีเอชเอ 0.4% วิตามินรวม 0.1% นมแพะ สูตร DG3 Advance Gold ชง 1 แก้ว จะได้รับสารอาหารประกอบด้วย โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 โอเมก้า 9 กรดคอนจูเกต ไลโนเลอิก ดีเอชเอ เออาร์เอ โคลีน ทอรีน แอล-คาร์นิทีน ใยอาหาร (อินนูลินและโอลิโกฟรุคโตส) ปริมาณสารอาหารในนมแพะ สูตร DG3 Advance Gold เพียงพอต่อร่างกาย ที่เด็ก ๆ ควรได้รับในแต่ละวัน ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรงสมวัยได้ นมวัว ระบบการสร้างน้ำนมของวัวเป็นแบบเมโรไคน์ (Merocrine Secretion) ซึ่งในกระบวนสร้างน้ำนมแบบเมโรไคน์นั้น จะปล่อยน้ำนมออกจากเซลล์โดยที่เยื่อหุ้มเซลล์ไม่หลุดออกมาด้วย ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารจากธรรมชาติเช่นเดียวกับในนมแม่ หรือนมแพะ ที่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ นมวัวสดไม่ได้แยกไขมันออก 1 แก้ว มีโปรตีนประมาณ 8 กรัม ไขมันประมาณ 8 กรัม รวมพลังงานประมาณ 146 แคลอรี่ และยังประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ (www.pobpad.com) แคลเซียม ประมาณ 28 % ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน วิตามินบี 2 ประมาณ 26% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน วิตามินดี ประมาณ 24 % ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ฟอสฟอรัส ประมาณ 22% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน วิตามินบี 12 ประมาณ 18 % ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ซีลีเนียม ประมาณ 13% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน โพแทสเซียม ประมาณ 10 % ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ทั้งนี้ ปริมาณของสารอาหารในนมวัวนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดู อาหารที่วัวกิน และสารเติมแต่งในนมวัวด้วย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสิ่งที่ดีที่สุด คุณแม่ควรเลือกนมที่เหมาะสมกับร่างกายของลูก ที่มีสารอาหารครบถ้วน และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ลูกแข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย
ไบโอแอคทีฟ, อะโพไครน์, นมแพะ ดีจี, ภูมิคุ้มกัน, นมแพะ DG
6 เหตุผลดีต่อใจ ทำไมคุณแม่ยุคใหม่เลือกนมแพะให้ลูกดื่ม
6 เหตุผลดีต่อใจ ทำไมคุณแม่ยุคใหม่เลือกนมแพะให้ลูกดื่ม นมแพะ กำลังเป็นที่นิยมที่คุณแม่ส่วนใหญ่เลือกให้ลูกน้อยดื่ม เพราะมีสารอาหารที่สมองและร่างกายเด็ก ๆ ควรได้รับ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้สมวัย รวมถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกมากมายที่มัดใจคุณแม่อยู่หมัด จะมีข้อดีอะไรอีกบ้าง ไปดูกันเลย 1. นมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคน นมแพะ มีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคน เรียกว่า “อะโพไครน์” ซึ่งแตกต่างจากนมทั่วไป จึงทำให้นมแม่และนมแพะ มีสารอาหารจากธรรมชาติที่หลุดออกมาพร้อมกับน้ำนมในปริมาณสูง เรียกว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ทำให้ลูกแข็งแรง พัฒนาการดีสมวัย 2. โอกาสแพ้น้อยกว่าถึง 3 เท่า นมแพะ มีโปรตีนก่อแพ้น้อยกว่านมวัวถึง 23% ทำให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่านมวัว และยังมีแลคโตส (น้ำตาลในนม) น้อยกว่าด้วย 3. ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ นมแพะ ดื่มแล้วสบายท้อง ย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะมีปริมาณเบต้าเคซีนสูง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยในการย่อยและมีโปรตีนชนิดที่ย่อยยากน้อยกว่านมวัวถึง 8 เท่า (เป็นสัดส่วนเคซีนที่ใกล้เคียงกับนมคน) เมื่อดื่มนมแพะเข้าไปร่างกายจะย่อยและดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็วกว่า 4. บำรุงสมองและสายตา นมแพะ ช่วยพัฒนาสมองและสายตาได้ดี เพราะในนมแพะมี DHA ARA ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญต่อระบบส่วนกลาง มีโอเมก้า 3 และ 6 ที่ช่วยพัฒนาเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี มีวิตามินเอ, วิตามินบี 12, ทอรีนและโคลีน ที่ช่วยในการเรียนรู้และจดจำ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงสายตาได้ดี 5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย นมแพะ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดี โดยมีวิตามิน บี 6 ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวสร้างสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และมีวิตามินดีสูงกว่านมวัว ทำให้ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันได้ดี และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเกิดภูมิแพ้ในร่างกายได้ 6. ซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ นมแพะ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย เพราะในนมแพะมีปริมาณโปรตีนสูง และเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย เมื่อดื่มเข้าไปร่างกายสามารถย่อยและนำไปใช้ได้ทันที รู้ข้อดีของนมแพะแล้ว แต่อย่างไรก็ดี คุณแม่ควรเลือกนมที่เหมาะกับร่างกายของลูกน้อย เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ลูกจะได้รับ
นมสำหรับเด็ก, ไบโอแอคทีฟ, อะโพไครน์, ภูมิคุ้มกัน, นมแพะ DG
นมแพะมีสุดยอดสารอาหารที่คล้ายกับนมคน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันลูกให้แข็งแรง
นมแพะมีสุดยอดสารอาหารที่คล้ายกับนมคน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันลูกให้แข็งแรง เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่านมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคน เรียกว่า Apocrine (อะโพไครน์) ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง ที่เรียกว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ จากระบบสร้างน้ำนมแบบเดียวกันนี้ จะทำให้นมแพะมีสารอาหารคล้ายกับนมแม่ไหม เรามีคำตอบมาให้หายสงสัยกันค่ะ สารอาหารที่นมแพะมีคล้ายนมคน 1. โปรตีนในนมแพะย่อยง่าย โปรตีนในนมแพะเป็นโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ที่สำคัญในนมแพะมีโปรตีน CPP (Casein Phosphopeptides) ช่วยในการดูดซึม แร่ต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี และแมกนีเซียม เข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเด็กได้รับสารอาหารจากโปรตีนที่ดี ย่อมส่งผลให้เด็กเติบโต แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดีสมวัย 2. นมแพะมีพรีไบโอติก นมแพะและนมแพะ มีพรีไบโอติก หรือใยอาหารชนิด อินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตส เป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพในทางเดินอาหาร ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโต เพิ่มจำนวนขึ้น จึงช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยลดปัญหาท้องผูกและช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย 3. นมแพะมีกรดอะมิโนที่จำเป็น ในนมแพะมี ทอรีน คือ กรดอะมิโนอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทอรีนมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำดี เป็นตัวเร่งกระบวนการออสโมซิส และเป็นตัวขนส่งแคลเซียม พร้อมกับมีบทบาทสำคัญในระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด และทอรีนทำหน้าที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระและยังทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมน้ำในเซลล์ของสมองอีกด้วย ทั้งนมแม่และนมแพะ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นนี้ 4. นมแพะมีไขมันและกรดไขมันที่จำเป็น นมแพะมีไขมัน MCT Oil ตามธรรมชาติ MCT Oil เป็นไขมันสายโซ่ปานกลาง (Medium Chain Triglycerides) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ากรดไขมันในนมวัว จึงย่อยได้ง่าย ร่างกายลูกน้อยดูดซึมนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีน้ำหนักตัวเหมาะสมตามวัย สุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้นมแพะยังมี ดีเอชเอ เออาร์เอ, โอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นในการพัฒนาสมอง สร้างโครงข่ายใยสมอง และสายตาของเด็กด้ว 5. นมแพะมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ในนมแม่และนมแพะมีแร่ธาตุต่างๆ ที่มีปะโยชน์ต่อร่างกายคล้ายกันหลายชนิด เช่น โคลีน มีบทบาทในการสร้างสารสื่อสัญญาณประสาท ช่วยพัฒนาการเรียนรู้และความจำ วิตามิน B12 สูง มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่าง ๆ เหล่านี้ นมแพะจึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณแม่ที่กำลังจะให้ลูกหย่านม หรือกำลังมีปัญหาในการให้นมลูก เพราะนมแพะมีสารอาหารที่เสริมสร้างการเจริญเติบโต และส่งเสริมภูมิคุ้มกัน ให้ลูกน้อยเจริญเติบโตมีพัฒนาการอย่างสมวัย
ไบโอแอคทีฟ, อะโพไครน์, พัฒนาการเด็ก, นมแม่, นมแพะ DG
นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร เลือกนมชนิดไหนให้ลูกดี?
นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร เลือกนมชนิดไหนให้ลูกดี? นมแพะ นมวัว นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ จะเลือกนมอะไรให้ลูกดื่มหลังหย่านมแม่ดี คุณแม่หลายคนอาจจะยังเลือกไม่ถูก อีกทั้งอาการแพ้นมซึ่งเกิดขึ้นได้ในเด็ก ก็ยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเลือกดื่มนมมากขึ้น เราจะพามาดูสารอาหารในนมแต่ละชนิดกันค่ะ ว่านมแบบไหนเหมาะสมกับลูกมากที่สุด ให้คุณแม่ได้ลองเลือกดู นมแพะ นมแพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคน เรียกว่า “อะโพไครน์” (Apocrine) ซึ่งแตกต่างจากนมทั่ว ๆ ไป จึงทำให้นมแม่และนมแพะ มีสารอาหารจากธรรมชาติที่หลุดออกมาพร้อมกับน้ำนมในปริมาณสูง เรียกว่า ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์ (Bioactive Components) ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน นมแพะ 1 แก้ว โปรตีนประมาณ 9 กรัม ไขมันอิ่มตัวประมาณ 7 กรัม แคลเซียมประมาณร้อยละ 35 ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน รวมพลังงานทั้งหมด 170 แคลอรี่ (www.pobpad.com) สารอาหารในนมแพะ ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันลูกให้แข็งแรงสมวัย ดังนี้ มีนิวคลีโอไทด์ ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรง มีทอรีน ช่วยให้การทำงานของจอประสาทตาดีขึ้น มีโพลีเอมีนส์ ช่วยลดปฏิกิริยาของการแพ้และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารให้สมบูรณ์ มีโกรทแฟคเตอร์ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต รวมถึงส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน มีพรีไบโอติก หรือใยอาหาร 2 ชนิด คือ อินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตส ช่วยในการปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ลดอาการท้องผูก มีโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมได้ง่ายช่วยให้ลูกสบายท้อง ท้องไม่อืด และมี CPP หรือ Casein Phosphopeptides เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ได้แก่ แคลเชียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี นมวัว นมวัว มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ เมโรไคร์น (Merocrine secretion) เป็นกระบวนการสร้างน้ำนมที่เยื้อหุ้มเซลล์น้ำนมยังมีความสมบูรณ์ โมเลกุลนมมีขนาดใหญ่ นมวัวสด 1 แก้ว (ไม่ได้แยกไขมันออก) พลังงานประมาณ 146 แคลอรี่ โปรตีนประมาณ 8 กรัม ไขมันประมาณ 8 กรัม นมวัวยังประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ เช่น แคลเซียม ,วิตามินบี 2 ,วิตามินดี, ฟอสฟอรัส, วิตามินบี 12 ,ซีลีเนียม, โพแทสเซียม ซึ่งดีต่อสมองและร่างกายของเด็ก *ทั้งนี้ ปริมาณของสารอาหารในนมวัวนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูหรืออาหารที่วัวกิน หรือสารที่แต่งเติมลงไปในน้ำนมวัว* (www.pobpad.com) นมอัลมอนด์ นมอัลมอนด์ (Almond Milk) คือ นมจากพืชที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะคนที่แพ้นมวัวก็ดื่มได้ แถมยังมี แคลเซียม วิตามินดี และวิตามินอี สูงอีกด้วย นมอัลมอนด์ 1 ถ้วย (แบบไม่เพิ่มความหวาน) แคลเซียมประมาณ 450 มิลลิกรัม แคลอรีประมาณ 30-60 แคลอรี คาร์โบไฮเดรตประมาณ 1 กรัม ไขมันประมาณ 3 กรัม โปรตีนประมาณ 1 กรัม แม้ว่านมอัลมอนด์จะเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี แต่นมอัลมอนด์ก็ไม่ได้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีด้วย ซึ่งโปรตีนคือสิ่งที่เด็กวัยกำลังซนและผู้ใหญ่ต้องการมาก นมอัลมอนด์จึงได้เพิ่มสารที่แต่งเติมลงไปในน้ำนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง คือนมจากพืชที่ดีที่สุด เพราะมีคุณภาพของสารอาหาร เช่น โปรตีน เทียบเท่านมวัว นมถั่วเหลือง 1 แก้ว (ไม่เพิ่มความหวาน) แคลอรีประมาณ 80-100 แคลอรี คาร์โบไฮเดรตประมาณ 4 กรัม ไขมันประมาณ 4 กรัม โปรตีนประมาณ 7 กรัม นมถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม (หากมีการเสริมเข้ามา) และโพแทสเซียมที่ดี นอกจากนี้ยังมีนมถั่วเหลืองโพรไบโอติก (Probiotic) หรือนมถั่วเหลืองแบบหมักด้วย ระบบภูมิคุ้มกันสำคัญต่อสุขภาพมาก ดังนั้นคุณแม่จึงควรใส่ใจในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น นอกจากภูมิคุ้มกันได้รับมาจากนมแม่แล้ว เด็ก ๆ ก็ควรได้รับภูมิคุ้มกันจากการรับประทานอาหารเสริมบางชนิดด้วย ที่อาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ เช่น นมเสริม เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน มีพัฒนาการดีสมวัย และสุขภาพร่างกายแข็งแรง คุณแม่ควรให้ลูกได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด อย่างน้อย 6 เดือน หรือให้นานที่สุดนะคะ และเมื่อถึงวัยหย่านมลูกคุณแม่ก็ควรเลือกนมที่มีสารอาหารครบถ้วน และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกด้วยค่ะ
นมสำหรับเด็ก, อะโพไครน์, สร้างภูมิคุ้มกัน, พัฒนาการเด็ก, นมแพะ DG
1
2
3
×
นโยบายความเป็นส่วนตัวของประเทศไทย
5 พฤษภาคม 2563
1. บทนำของนโยบายความเป็นส่วนตัว
1.1
www.dgsmartmom.com
โดย บริษัทแปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัท”)ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจริงจัง บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
1.2 ในระหว่างการให้บริการหรือการเข้าถึงแพลตฟอร์มของบริษัท (ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดในการให้บริการ) บริษัทจะรวบรวมข้อมูลรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1.3 นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้มีไว้เพื่อให้ท่านรับทราบเกี่ยวกับการใช้กระบวนการ และการจัดเก็บข้อมูลของทางบริษัทที่เก็บรวบรวมและได้รับมาระหว่างการให้บริการหรือการเข้าถึงแพลตฟอร์มแก่ท่าน บริษัทจะจัดเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลความเป็นส่วนตัวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เท่านั้น
1.4 เป็นสิ่งสำคัญสำหรับท่านที่ต้องอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้กับนโยบายอื่นๆ ที่บังคับใช้ที่ทางบริษัทได้ระบุไว้โดยเฉพาะในเรื่องการรวบรวม และการจัดเก็บข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่าน เพื่อให้ลูกค้าได้ตระหนักว่าทางบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไรและนำไปใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านอย่างไร
1.5 การคลิก หรือการเข้าตรวจสอบ "การลงทะเบียน" "ข้าพเจ้ายอมรับถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท" หรือ ข้อความอื่นที่คล้ายกันที่หน้าบริการลงทะเบียนของบริษัท ลูกค้ายอมรับว่าได้รับการแจ้งและเข้าใจถึงเงื่อนไขของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้และลูกค้าได้ยอมรับในการจัดเก็บและประมวลข้อมูลความเป็นส่วนตัวตามที่ได้อธิบายไว้และภายใต้เงื่อนไขนี้
1.6 บริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้เป็นคราวๆ ไปการเปลี่ยนแปลงใดๆที่ทางบริษัทจัดมีขึ้นทางบริษัทจะประกาศไว้ในหน้าเพจ หรือที่อื่นที่เหมาะสม หรือแจ้งเตือนแก่ลูกค้าเป็นอีเมล์ ขณะที่ลูกค้าใช้บริการการเข้าถึงแพลตฟอร์ม หรือการเข้าใช้บริการรวมถึงคำสั่งการสั่งซื้อบนแฟลตฟอร์ม ถือเป็นการรับทราบและยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทางบริษัทได้ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ตามที่ได้แจ้งท่านไว้ในอีเมล์ กรุณาตรวจสอบอีเมล์เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขใดๆถึงนโยบายความเป็นส่วนตัว
1.7 นโยบายความเป็นส่วนตัวใช้กับการประกาศอื่นๆ ข้อสัญญาและข้อความยินยอมที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูล การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลสำหรับข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่านต่อบริษัท และจะไม่มีการยกเลิกจนกว่าบริษัทได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
1.8 ท่านสามารถเข้าชมแพลตฟอร์มและเรียกดูโดยไม่ต้องระบุถึงรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว อย่างไรก็ตามท่านต้องลงชื่อสมัครเข้าใช้บัญชีหากท่านต้องการใช้บริการต่างๆ
1.9 หากท่านมีความเห็น ข้อเสนอแนะ หรือการร้องเรียนในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของท่าน กรุณาติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางการติดต่อบนหน้าเวปไซต์
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน
2.1 ข้อมูลความเป็นส่วนตัว หมายถึง ข้อมูลใดๆ ไม่ว่าจะบันทึกอยู่ในรูปแบบข้อมูลเอกสาร หรือไม่ก็ตาม ซึ่งข้อมูลระบุความเป็นตัวตนของบุคคลมีความชัดเจนหรือสามารถระบุได้อย่างสมเหตุผลและตรงไปตรงมาโดยผู้ถือครอบครองข้อมูล หรือเมื่อร่วมกับข้อมูลอื่นโดยตรงและที่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด
2.2 บริษัทจะเก็บข้อมูลจากท่านดังต่อไปนี้:
ก. ข้อมูลระบุตัวตน ตัวอย่างเช่น ชื่อของท่าน เพศ วันเกิด
ข. ข้อมูลติดต่อ ตัวอย่างเช่น ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์
ค. ข้อมูลเทคนิค ตัวอย่างเช่น หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP) ข้อมูลการเข้าระบบ ประเภทเบราเซอร์ และเวอร์ชั่น การตั้งค่าเวลาและที่ตั้ง การเชื่อมต่อและประเภทของเบราเซอร์ที่ใช้เชื่อต่อ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าระบบแพลตฟอร์ม
ง. ข้อมูลส่วนตัว ตัวอย่างเช่น ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน การสั่งซื้อหรือคำสั่งซื้อจากท่าน ความสนใจ การตั้งค่า การตอบรับ และการตอบแบบสำรวจ
จ. ข้อมูลการใช้งาน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลการเข้าใช้แพลตฟอร์มของท่าน สินค้า และบริการอื่นๆ และ
ฉ. ข้อมูลการตลาดและการติดต่อสื่อสาร ตัวอย่างเช่น ความพึงพอใจในการรับข้อมูลการตลาดจากทางบริษัทและ บุคคลภายนอกของบริษัท และความพึงพอใจในการติดต่อสื่อสาร
2.3 ในระหว่างที่ท่านใช้แพลตฟอร์มและการให้บริการใดๆ ทางบริษัทได้รับข้อมูลส่วนตัวจากท่านในกรณีดังต่อไปนี้ได้:
ก. เมื่อท่านสร้างบัญชีผู้ใช้กับบริษัท
ข. เมื่อท่านสมัครใช้การบริการใดๆที่มีอยู่บนแฟลตฟอร์ม
ค. เมื่อท่านเข้าใช้ถึงรูปแบบและการทำงานที่ปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มและการบริการอื่นๆ ของบริษัท
ง. เมื่อท่านสมัครรับข้อมูลสื่อโฆษณาหรือหลักประกันด้านการตลาดของบริษัท
จ. เมื่อท่านได้เข้าร่วมการแข่งขัน ส่วนลด หรือแบบสอบถาม
ฉ. เมื่อท่านเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มของบริษัท หรือติดต่อบริษัทผ่านทางบริการภายใน หรือแอพพลิเคชั่น ตัวอย่างเช่น เฟสบุ๊ค กูเกิ้ล และ
ช. เมื่อท่านติดต่อโดยไม่ผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงเมื่อท่านติดต่อกับตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท
2.4 ท่านต้องส่งข้อมูลส่วนตัวซึ่งมีความถูกต้องและไม่เป็นการหลอกลวง และท่านจะแจ้งข้อมูลล่าสุดและแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทมีสิทธิในการเรียกร้องให้ท่านส่งเอกสารเพื่อยืนยันถึงข้อมูลส่วนตัวของท่าน ที่ท่านได้ให้ไว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบลูกค้าของบริษัท
2.5 บริษัทจะเก็บข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านสมัครใจตกลงส่งข้อมูลความเป็นส่วนตัวให้กับบริษัท แต่หากท่านเลือกที่จะไม่ส่งมอบข้อมูลความเป็นส่วนตัวให้แก่บริษัท หรือต่อมายกเลิกความยินยอมของบริษัทในการใช้ข้อมูลความเป็นส่วนตัว บริษัทไม่สามารถให้บริการของบริษัทหรือเข้าถึงแพลตฟอร์มได้
2.6 ท่านสามารถเข้าสู่ระบบและอัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลและส่งมาให้กับบริษัทได้ตลอดเวลาตามที่ได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้
2.7 หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆของบุคคลภายนอก แก่ทางบริษัท ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่ท่านได้แชร์และส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของเขา/เธอ ให้กับบริษัท เพื่อให้บริษัทได้จัดเก็บข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยซึ่งข้อมูลนั้นที่เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
2.8 หากท่านใช้บัญชีบนเว็บไซต์ โดยผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียบัญชีอื่นหรือการเชื่อมโยงบัญชีบนเว็บไซต์ กับบัญชีโซเชียลมีเดียอื่นของท่าน หรือการใช้โซเชียลมีเดียในรูปแบบอื่นบนเว็บไซต์ บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งท่านสมัครใจได้ให้ไว้กับผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียตามนโยบายของผู้ให้บริการและบริษัทจะจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
3. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บมาจากท่านจะนำไปใช้โดยบริษัท หรือแชร์ หรือส่งมอบให้กับบุคคลภายนอก (รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและผู้ให้บริการและบริษัทที่เกี่ยวข้องของบุคคลภายนอก และผู้ขายซึ่งเป็นบุคคลภายนอก) สำหรับบางส่วนหรือทั้งหมดเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก. เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการและการเข้าถึงแพลตฟอร์มรวมถึงการตอบข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ การเรียกร้อง หรือข้อพิพาทผ่านทางตัวแทนบริการลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
ข. เพื่อให้ข้อมูล อัพเดทสินค้า และโปรโมชั่นแก่ท่านไม่ว่าสินค้านั้นจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มโดยบริษัทหรือโดยผู้ขายซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนลูกค้า
ค. เปรียบเทียบข้อมูลและยืนยันกับบุคคลภายนอกเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
ง. ให้กับผู้จัดการบัญชีของท่าน (ถ้ามี) กับทางบริษัท
จ. เพื่อตรวจสอบการดาวน์โหลดข้อมูลจากแพลตฟอร์ม
ฉ. เพื่อปรับปรุงรูปแบบหรือเนื้อหาของหน้าเว็บเพจบนแพลตฟอร์มเเละปรับเปลี่ยนให้กับผู้ใช้
ช. เพื่อระบุผู้เข้าชมบนแพลตฟอร์ม
ซ. เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับข้อมูลประชากรและพฤติกรรมของผู้ใช้
ฌ. เพื่อเสนอข้อมูลที่บริษัทเห็นว่าเป็นประโยชน์หรือที่ท่านร้องขอจากบริษัทรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขายสินค้าและบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งการให้ข้อมูลนี้ท่านได้ยืนยันว่าท่านไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปติดต่อเพื่อจุดประสงค์เหล่านี้
ญ. ตามที่ได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อส่ง เอกสารการตลาดหรือการส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของทางบริษัทหรือผู้ขายซึ่งเป็นบุคคลที่สามเป็นคราวคราวไป และ
ฎ. ทางบริษัทอาจดำเนินการตัดสินใจให้โดยอัตโนมัติเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ใดๆนี้
3.2 ท่านสามารถยกเลิกการติดตามการรับข้อมูลการตลาดได้ตลอดระยะเวลาโดยใช้ตัวเลือกยกเลิกการติดตามในส่วนของเนื้อหาการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทอาจใช้ข้อมูลติดต่อของท่านเพื่อส่งจดหมายจากทางบริษัทและจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง
3.3 ในกรณียกเว้น ทางบริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่นเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นมีความจำเป็นในการป้องกันภัยคุกคามต่อชีวิตหรือสุขภาพ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และตามข้อกำหนดและข้อเรียกร้องใดๆ
3.4 บริษัทอาจแชร์และอนุญาตให้แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอกและบริษัทในเครือเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆที่กล่าวไว้ข้างต้น รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ การดำเนินทางธุรกรรมให้สำเร็จ เพื่อจัดการบัญชีและความสัมพันธ์ของบริษัทกับท่าน เพื่อการตลาดและปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อกำหนดและข้อเรียกร้องใดๆ ที่บริษัทเห็นสมควร ในการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของท่านกับพวกเขา บริษัทจะให้ความมั่นใจว่าบุคคลที่สามและบริษัทในเครือจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของท่านให้ปลอดภัยจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึง เก็บ ใช้ เปิดเผย หรือความเสี่ยงที่คล้ายกันและเก็บข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่านไว้ตราบเท่าที่พวกเขาต้องการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น
3.5 หากท่านอาศัยอยู่ในประเทศไทย บริษัทอาจโอนข้อมูลหรืออนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยได้เพื่อจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ในการเปิดเผยหรือโอนหรืออนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่ได้รับข้อมูลมีมาตรฐานในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับการคุ้มครองภายใต้หรือในมาตรฐานเดียวกันกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้กับบริษัท
4. การเพิกถอนความยินยอม และการให้ลบหรือทำข้อมูลให้เป็นนิรนามซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 ท่านอาจแจ้งการเพิกถอนการให้ความยินยอมของท่านในการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในวัตถุประสงค์ใดๆ หรือในลักษณะที่ได้ระบุไว้ข้างต้นได้ตลอดเวลา หรือร้องขอให้ลบหรือทำข้อมูลให้เป็นนิรนามซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยติดต่อบรืษัท ผ่านช่องทางการติดต่อที่ปรากฎในเว็บไซต์
4.2 โปรดทราบว่าหากท่านแจ้งเตือนการเพิกถอนการให้ความยินยอมในการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจุดประสงค์หรือในลักษณะที่ระบุไว้ข้างต้น หรือร้องขอให้ลบหรือทำข้อมูลให้เป็นนิรนามซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทางบริษัทอาจไม่สามารถให้บริการสินค้าหรือบริการอื่นๆแก่ท่านหรือปฏิบัติตามสัญญาใดๆที่มีกับท่าน และบริษัทจะไม่รับผิดในกรณีที่บริษัทไม่ได้ให้บริการสินค้าหรือการบริการของบริษัทแก่ท่านหรือปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่าน บริษัทมีสิทธิตามกฏหมายและการเยียวยาใดๆ ทางบริษัทขอสงวนไว้ซึ่งเหตุดังกล่าวนี้
5. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 เป็นสิ่งสำคัญที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง ท่านมีหน้าที่ในการแจ้งหากมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือในกรณีที่ท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ทางบริษัทมีไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์หรืออาจทำให้เข้าใจผิดหรือเป็นข้อมูลเก่า ท่านสามารถอัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลได้ตลอดเวลาโดยการเข้าจากบัญชีท่านไปที่แพลตฟอร์ม หากท่านไม่สามารถทำการอัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางบัญชีของท่านได้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท รายละเอียดการติดต่อที่ปรากฎในเว็บไซต์
5.2 บริษัททำตามขั้นตอนเพื่อแชร์ข้อมูลความเป็นส่วนตัวที่อัพเดทของท่านกับบุคคลภายนอกและบริษัทในเครือ ซึ่งบุคคลที่ทางบริษัทแชร์ก็แต่เมื่อเห็นว่าข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น
6. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.1 หากท่านต้องการขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ทางบริษัทได้เก็บไว้หรือมีข้อสงสัยในวิธีการเก็บข้อมูลที่ได้ใช้หรือได้เปิดเผยโดยทางบริษัทในปีที่ผ่านมา กรุณาติดต่อบริษัทตามรายละเอียดติดต่อที่ปรากฎในเว็บไซต์ เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินตามคำขอของท่านอาจมีความจำเป็นในการขอข้อมูลเพิ่มเติมตามคำขอของท่าน
6.2 ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าดำเนินการสำหรับการดึงข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ได้บันทึกไว้ หากเป็นกรณีเช่นนั้นทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงค่าดำเนินการก่อนที่บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่าน
6.3 บริษัทจะตอบกลับตามคำขอของคุณโดยเร็วที่สุด หากทางบริษัทไม่ตอบกลับคำขอของคุณภายใน ยี่สิบเอ็ด (21) วันนับตั้งแต่วันที่คุณส่งคำขอบริษัทจะเเจ้งท่านเป็นลายลักษณ์อักษร หากทางบริษัทไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆหรือทำการแก้ไขตามคำขอของท่านบริษัทจะแจ้งท่านให้ทราบถึงสาเหตุที่ทางบริษัทไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้ (เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามคำขอภายใต้กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้กับบริษัท)
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของท่าน
7.1 เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลผู้ไม่มีอำนาจเข้าถึง การเก็บ ใช้ เปิดเผย ทำซ้ำ แก้ไข จำหน่าย หรือ ความเสี่ยงในทำนองเดียวกันของข้อมูลทางบริษัทได้นำมาตรการการจัดการ ทางกายภาพและด้านเทคนิคที่เหมาะสมมาใช้ ตัวอย่างเช่น
ก. การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่ต้องการเข้าใช้
ข. ติดตั้งผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการเข้าถึงคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ค. ลบหรือไม่ระบุข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายบังคับใช้ เมื่อไม่ต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายหรือธุรกิจอีกต่อไป และ
ง. ใช้ 128 SSL บิต (ระบบล็อคเข้ารหัส) เมื่อประมวลผลข้อมูลทางการเงินของคุณ
7.2 หากท่านเชื่อว่าความเป็นส่วนตัวของท่านถูกละเมิดโดยบริษัท กรุณาติดต่อบริษัทตามรายละเอียดติดต่อที่ปรากฎในเว็บไซต์
7.3 ท่านควรระวังไว้ด้วยว่าไม่มีวิธีการใดของส่งข้อมูลผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตหรือวิธีการจัดเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ความปลอดภัยไม่สามารถเป็นตัวรับรองได้แต่บริษัทจะพยายามป้องกันความปลอดภัยถึงข้อมูลและตรวจสอบและปรับปรุงมาตการการรักษาความปลอดภัยอยู่เสมอ
7.4 รหัสผ่านของท่านเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเข้าใช้บัญชี กรุณาใช้ตัวเลขตัวอักษรและเครื่องหมายพิเศษที่มีความเฉพาะ และกรุณาห้ามแชร์รหัสผ่านของท่านกับใคร หากท่านใช้รหัสผ่านของท่านกับบุคคลอื่น ท่านมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้นจากบัญชีชื่อของท่านและผลกระทบนั้นๆ หากท่านเสียการควบคุมซึ่งรหัสผ่านหรือเสียการควบคุมถึงข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลอื่นๆที่ได้ส่งให้กับบริษัท ถือว่าท่านต้องรับผิดชอบและมีผลผูกพันต่อการกระทำนั้นตามกฎหมาย ดังนั้นหากรหัสผ่านของท่านถูกเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็ตามหรือหากท่านมีเหตุผลอันควรเชื่อว่ารหัสผ่านของท่านถูกเปลี่ยนแปลงให้ท่านติดต่อกับทางบริษัทและขอเปลี่ยนรหัสผ่านทันที บริษัทขอเตือนให้ท่านออกจากระบบบัญชีผู้ใช้และปิดหน้าค้นหาหลังจากที่ท่านได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ร่วมกันกับบุคคลอื่น
8. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 บริษัทจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นหรือตามกฎหมายหรือเท่าที่มีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการเก็บข้อมูลนั้นไว้
8.2 บริษัทจะหยุดการเก็บข้อมูลความเป็นส่วนตัวหรือลบข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงกับท่านตามที่มีเหตุผลพอสมควรที่จะถือว่าการเก็บข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้เก็บข้อมูลไว้ก่อนนี้และไม่มีความจำเป็นต่อกฎหมายหรือต่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอีกต่อไป
9. เด็กผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
9.1 บริษัทจะไม่ขายสินค้าให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หรือให้บริการใดๆหรือการใช้แพลตฟอร์มแก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และบริษัทไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี
9.2 หากท่านอายุต่ำกว่า 18 ปี ท่านสามารถใช้บริการเว็ปไซต์ของบริษัทได้โดยมีผู้ปกครองและพ่อแม่คอยดูเเล
10. การเก็บข้อมูลของระบบ
10.1 บริษัทหรือผู้ให้บริการที่มีอำนาจอาจใช้คุกกี้หรือเว็บบีคอนหรือระบบเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อทำการจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถให้บริการท่านได้ดี รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้บริการหรือเข้าใช้แพลตฟอร์ม
10.2 เมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์มผ่านคอมพิวเตอร์ของท่านหรืออุปกรณ์โทรศัพท์หรือเครื่องมือชนิดอื่นๆด้วยระบบอินเตอร์เน็ตnระบบเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทจะทำการบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติ ซึ่งบราวเซอร์ของท่านจะส่งไม่ว่าเวลาใดที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ โดยอาจมีข้อมูลดังต่อไปนี้รวมอยู่ด้วย
ก. ไอพีแอดเดรสของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสาร
ข. ประเภทของเบราว์เซอร์
ค. หน้าเว็บเพจที่ท่านได้เข้าชมก่อนที่ท่านจะเข้ามาที่แพลตฟอร์มของบริษัท
ง. หน้าเพจภายในแพลตฟอร์มที่ท่านเข้าชม
จ. เวลาที่ใช้ในหน้าเพจรายการและข้อมูลที่ค้นหาบนแพลตฟอร์ม วันและเวลาที่เขาใช้และสถือติอื่นๆ
10.3 ข้อมูลที่จัดเก็บเพื่อการวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์และการบริการและสินค้าที่บริษัทได้ให้บริการ
10.4 คุกกี้คือไฟล์ข้อความขนาดเล็ก (ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข) จัดเก็บอยู่ในหน่วยความจำของเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์หรือดูข้อความ ซึ่งเป็นการช่วยให้ทางบริษัทได้รับรู้ถึงอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์และช่วยให้บริษัทปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ตรงตามความสนใจของท่านอย่างรวดเร็วและทำให้การบริการและแพลตฟอร์มมีประโยชน์และสะดวกต่อท่านมากขึ้น
10.5 ท่านสามารถเข้าจัดการและลบคุกกี้ผ่านทางระบบเบราว์เซอร์หรือการตั้งค่าได้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่านี้ ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การช่วยเหลือของเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของท่าน
10.6 เว็บบีคอน คือ ภาพกราฟิกขนาดเล็กที่อาจรวมอยู่ในบริการและแพลตฟอร์มของบริษัท ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถนับจำนวนผู้ใช้ที่ได้เข้ามาดูหน้าเว็บ เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าใจถึงความชอบและความสนใจของท่านได้ดียิ่งขึ้น
11. สิทธิของบริษัท ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
11.1 ท่านรับทราบและยอมรับว่าบริษัท มีสิทธิ์ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านในกรณีที่มีกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่งรัฐบาลภาษี การบังคับใช้กฎหมายหรือต่อผู้มีอำนาจหรือต่อเจ้าของผู้มีสิทธิ์หรือในกรณีที่มีเหตุผลอันสมควรที่บริษัท เชื่อว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฎิบัติตามหน้าที่ข้อกำหนด หรือการร่วมมือใดไม่ว่าจะโดยสมัครใจหรือได้รับคำสั่งมาเพื่อให้ความร่วมมือตามคำสั่งการสืบสวนและหรือตามที่ร้องขอจากบุคคลเหล่านั้นตามขอบเขตที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ ท่านตกลงยินยอมจะไม่กระทำการใดใดและหรือสละสิทธิ์ของท่านที่จะกระทำการใดต่อบริษัท สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวตามสถานการณ์เช่นว่านี้
12. หน้าเว็บไชต์ของบุคคลภายนอก
12.1 แพลตฟอร์มอาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอกเช่น บริษัทในเครือ ร้านค้าหรือรับชำระค่าบริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ บริษัทไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการรักษาความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอกดังกล่าวนี้ บริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบถึงนโยบายส่วนบุคคลของเว็บไซต์ต่างๆนั้นเพื่อดูว่ามีวิธีการจัดการกับข้อมูลที่เก็บรวมรวบไปรับจากท่านอย่างไร
×
เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Google+
เข้าสู่ระบบด้วยช่องทางปกติ
สมาชิก DG เก่า
ให้กดลืมรหัสผ่าน เพื่อขอรหัสผ่านใหม่ทาง Email
ลืมรหัสผ่าน ?
LOGIN
ถ้ายังไม่มี account ต้องการสมัครสมาชิก
ลงทะเบียน
×
เงื่อนไขการสมัครสมาชิก
การสมัครสมาชิกและกิจกรรมทั้งหมดทำภายใต้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนมแพะ DG3
ผู้ขอสมัครสมาชิก DG Smartmom Club กรุณาอ่านข้อตกลงด้านล่างนี้โดยละเอียด การสมัครสมาชิก DG Smartmom Club ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิก กรุณากรอกข้อมูลตนเองที่เป็นความจริงให้ครบทุกข้อ เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่านในการเข้าร่วมกิจกรรมในเว็บไซต์ และสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับสมาชิก
สมาชิกต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท ที่ทาง DG Smartmom Club ตั้งขึ้นมา เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
หากมีผู้กระทำการใดๆ ที่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล โดยใช้ข้อมูลของผู้อื่นมาแอบอ้าง หรือใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม หยาบคาย ส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือกระทำการใดๆอันเป็นการฝ่าฝืนกฏหมาย ทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเป็นสมาชิกหรือหยุดให้บริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ในกรณีที่ท่านสมัครเป็นสมาชิก ข้อมูลของท่านจะถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารเท่านั้น โดยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นความลับ เว้นแต่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกแล้ว หรือได้รับการร้องขอ หรือคำสั่งจากหน่วยงานราชการ หรือโดยศาลที่มีเขตอำนาจ
เงื่อนไขการรับของที่ระลึก
ขอสงวนสิทธิ์จัดส่งของที่ระลึกให้กับครอบครัวที่มีบุตรอายุตั้งแต่ 3-5 ปี เท่านั้น
ขอสงวนสิทธิ์จัดส่งของที่ระลึกให้กับท่านที่มีชื่อ-ที่อยู่ชัดเจน ที่สามารถติดต่อได้เท่านั้น
ขอสงวนสิทธิ์ไม่จัดส่งของที่ระลึกสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกที่บูธนมแพะดีจีภายในงานต่างๆ เเละได้รับของที่ระลึกในงานเเล้ว
Accept Terms and Conditions
ยืนยัน
×
สมัครสมาชิก
รูปภาพประจำตัว :
รายได้ครอบครัวต่อเดือน * :
ต่ำกว่า 30,000
30,001 - 50,000
50,001 - 70,000
70,001 - 90,000
90,000 ขึ้นไป
ปัจจุบันลูกคุณดื่มนมยี่ห้อใด * :
นมแพะดีจี
เอนฟา เอนพลัส
ดูเม็กซ์ ไฮคิว
เอส26
ตราหมี
ซิมิแลค
แนนโปร
อื่นๆ
ท่านสมัครสมาชิกจากช่องทางใด * :
สมัครสมาชิกผ่านทาง www.dgsmartmom.com โดยตรง
สมัครสมาชิกผ่านทาง DG Smartmom Fanpage
สมัครสมาชิกผ่านทางงาน รักลูก แฟมิลี่ เฟสติวัล
สมัครสมาชิกผ่านทางงาน Amarin Baby & Kids Fair
สมัครสมาชิกผ่านทางงาน Thailand Baby and Kids Best Buy
อื่นๆ
ถัดไป
กรอกรายละเอียด
กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์
1
2
เลือกสถานะตอนนี้ *
ไม่มีบุตร
มีบุตร
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนกดส่งข้อมูล
ถัดไป
กรอกรายละเอียด
กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์
1
2
เลือกความสนใจ * :
เลือกทั้งหมด
สาระดีดีเกี่ยวกับแม่และเด็ก
เมนูลูกรัก
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนกดส่งข้อมูล
สมัคร
กรอกรายละเอียด
กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์
1
2
เลือกความสนใจ * :
เลือกทั้งหมด
สาระดีดีเกี่ยวกับแม่และเด็ก
เมนูลูกรัก
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนกดส่งข้อมูล
สมัคร
กรอกรายละเอียด
กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์
1
2
เลือกความสนใจ * :
เลือกทั้งหมด
สาระดีดีเกี่ยวกับแม่และเด็ก
เมนูลูกรัก
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนกดส่งข้อมูล
สมัคร
เสร็จเรียบร้อย
หลังจากทีมงานตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการจัดส่งของขวัญให้ค่ะ :)
ปิดหน้าต่างนี้