ชวนลูกน้อยมาใส่หน้ากากอนามัยอย่างไร ให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค

เขียนโดย

DG Smartmom

เผยแพร่เมื่อ

18 สิงหาคม 2564

อ่านแล้วจำนวน

633

            จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เป็นอันตราย ซึ่งกำลังระบาดอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ทำให้คุณแม่หลายท่านต้องเพิ่มการป้องกันตัวเองและลูกน้อยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือด้วยสบู่ การเว้นระยะห่างทางสังคม และงดเว้นการออกไปนอกบ้าน แต่หากคุณแม่มีเหตุจำเป็นต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอก การสวมหน้ากากอนามัยให้ลูกอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้


การใส่หน้ากากอนามัยสำคัญแค่ไหน?

    ในภาวะที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมีความรุนแรงและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ยิ่งในช่วงฤดูฝนที่มีอากาศเย็นชื้น ทำให้โรคติดต่อทางเดินหายใจระบาดได้ง่าย โดยแพร่เชื้อผ่านละอองน้ำมูก น้ำลาย เวลาไอหรือจาม การไอ จามแต่ละครั้งจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปได้ไกลถึง 3 ฟุต และลอยปะปนอยู่ในอากาศ ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัยก็จะช่วยลดความเสี่ยงการกระจายของเชื้อโรคจากผู้ติดเชื้อ โดยคุณแม่ต้องเลือกหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก และใส่อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


วิธีการใส่และการเลือกหน้ากากอนามัยให้เข้ากับลูกน้อย

           คุณแม่ทราบไหมคะว่าหน้ากากอนามัยมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท นั่นก็คือ 

1. หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 

2. หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้า 

3. หน้ากากอนามัยชนิด N95 

           ซึ่งเด็กๆ สามารถใส่ได้ทั้ง 3 แบบ แต่หน้ากากอนามัย N95 นั้นไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากสายรัดที่บีบรัดแน่นจนเกินไปอาจทำให้เจ้าตัวเล็กหายใจไม่ออก


เด็กวัยไหนที่ควรสวมหน้ากากอนามัย?

   • ทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะยังมีระบบการหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ อาจเกิดการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ หากต้องพาลูกออกนอกบ้าน แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกแนบอก หรือใส่ในรถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดแทน ลูกจะปลอดภัยและยังคงหายใจได้อย่างสบาย

           • เด็กวัย 1-2 ปี หากจำเป็นต้องใส่หน้ากาก ควรใส่ด้วยความระมัดระวัง และใส่ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

           • เด็กวัย 2 ปี ขึ้นไป สามารถใส่หน้ากากได้แล้ว ยกเว้นเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง หรือระบบทางเดินหายใจ ไม่ควรใส่หน้ากาก หรือใส่ในเวลาที่นานเกินไป


ชวนลูกน้อยมาใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี

1. ล้างมือให้สะอาดก่อนใส่หน้ากากให้ลูกน้อย

2. เอาด้านสีเข้ม (หรือมันวาว) ออกด้านนอก และขอบลวดอยู่ด้านบนสันจมูก

3. สวมหน้ากากคลุมทั้งจมูกและปาก และคล้องสายกับหูหรือผูกให้กระชับ

4. กดขอบลวดให้พอดีกับจมูก ดึงให้คลุมถึงปลายคาง

5. ห้ามนำมือไปจับบริเวณด้านนอกของหน้ากาก เพราะเชื้อโรคอาจติดอยู่ด้านนอก

6. เมื่อถอดหรือทิ้งต้องจับที่สายคล้อง เพราะเชื้อโรคอาจติดอยู่ที่หน้ากาก

7. ล้างมือให้สะอาดหลังถอดหน้ากาก

 



6 วิธีรับมือ เมื่อลูกน้อยไม่ยอมใส่หน้ากาก

1. ใส่เป็นเพื่อนลูก เด็กเล็กชอบเลียนแบบพฤติกรรมพ่อแม่ เมื่อลูกน้อยเห็นพ่อแม่ใส่ ลูกจะอยากใส่ด้วย ลองเลือกหน้ากากอนามัยลายเหมือนกัน ใส่เป็นทีมครอบครัวก็น่าสนใจนะคะ

2. ให้ตุ๊กตาใส่ด้วย การใส่หน้ากากให้ตุ๊กตาตัวโปรดก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ลูกรู้สึกว่ามีเพื่อนใส่หน้ากากด้วย หรือชี้ให้ลูกดูเพื่อนคนอื่นๆ ก็ใส่หน้ากากกัน ลูกเห็นเพื่อนใส่ก็จะอยากใส่ด้วย

3. เลือกลายการ์ตูนที่ลูกชอบ ก่อนคุณแม่จะสั่งซื้อหน้ากาก ลองให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกลายที่เขาชอบ จากเดิมที่ไม่ยอมใส่ พอเจอลายที่ชอบเขาก็อาจยอมใส่ไม่ยาก

4. มีคำชม มีรางวัลเป็นการเสริมแรงทางบวก เมื่อลูกยอมใส่หน้ากากอนามัย คุณแม่ควรชมว่าใส่แล้วน่ารักจังเลย หรือให้ของรางวัลเพื่อกระตุ้นให้ลูกอยากใส่อีก

 5. อธิบายเหตุผลที่ต้องใส่หน้ากาก หากลูกอายุน้อยกว่า 3 ปี คุณแม่ลองคุยกับลูกให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเราต้องใส่หน้ากากอนามัยเราถึงจะปลอดภัย และหากลูกอายุ 3 ปีขึ้นไป เขาจะมีความเข้าใจเรื่องเชื้อโรคมากขึ้น สามารถอธิบายได้ว่า เชื้อโรคทำให้เราเจ็บป่วย และยอมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเชื้อโรค

6. ทำข้อตกลง ถ้าลูกไม่ยอมใส่หน้ากาก จะไม่ให้ออกจากบ้าน คุณแม่ต้องใจแข็ง ลูกอาจไม่พอใจ ร้องโวยวาย แต่ถ้าคุณแม่หนักแน่นลูกจะเรียนรู้เองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ

            การป้องกันการติดเชื้อที่ดีสุด คือ การมีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้วยการรักษาความสะอาด หมั่นล้างมือทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังสัมผัสสิ่งต่างๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การให้ลูกดื่มนมที่มีอะโพไครน์ ระบบสร้างน้ำนมแบบเดียวกับนมแม่ ที่ให้สารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันดี เติบโตสมวัย ห่างไกลจากเชื้อโรค